กิจกรรมศิลปะด้านอาหารการกินระดับนานาชาตินั้นจะจัดขึ้นในทุกๆ วันที่ 21 มีนาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ Goût de France หรือ Good France นี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาระหว่างประเทศประจำประเทศฝรั่งเศสพร้อมด้วยเชฟอแล็ง ดูกาสส์ (Chef Alain Ducasse) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับศิลปะด้านอาหารการกินและศิลปะการใช้ชีวิตในแบบฝรั่งเศส
จากคำกล่าวของเชฟอแล็ง ดูกาสส์ (Chef Alain Ducasse) ที่ว่า "การปรุงอาหารจากครัวฝรั่งเศสนั้น ถือเป็นตัวแทนของการปรุงอาหารที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน... วัตถุประสงค์หลักของ Goût de France คือความเอื้ออาทร การแบ่งปันความรักที่มีให้กับสิ่งที่สวยงาม และรสชาติอันยอดเยี่ยม ถือเป็นฉากแห่งความรื่นรมย์และเป็นโอกาสอันดีในการเฉลิมฉลองให้กับอาหารฝรั่งเศสทั่วโลก"
ในวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ เชฟกว่า1,000 คน จากทั่วโลกจะมานำเสนออาหารมื้อค่ำเลิศรสที่พวกเขาต่างรังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากอาหารจานเด็ดต้นตำรับจากครัวฝรั่งเศส เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อการปรุงอาหารฝรั่งเศส ซึ่งในแต่ละเมนูนั้นจะมีจุดเด่นที่ประกอบไปด้วยการใช้ไขมันต่ำ ใช้น้ำตาลและเกลือในปริมาณน้อย ที่แสดงให้เห็นถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับผักและธัญพืชนานาชนิด
ที่ ลาพาร์ต บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ เชฟเจอโรม เดอคอนนิกค์ ได้นำเอาปรัชญาของ Goût de Franceประจำปี ค.ศ. 2016 มาประยุกต์ใช้กับการปรุงอาหารฝรั่งเศสแบบร่วมสมัย
เชฟเจอโรม เดอคอนนิกค์ พ่อครัวชาวฝรั่งเศสผู้มากด้วยความคิดสร้างสรรค์ พร้อมประสบการณ์อันยาวนานจากการทำงานในครัวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในโรงแรมหรูหลายแห่ง เส้นทางสายพ่อครัวมืออาชีพของเขาได้เริ่มต้นจากการฝึกงานที่ห้องอาหาร ลา ซิบูแลต (La Ciboulette)
ของเชฟมิชลินสตาร์ จอร์จ แพคคาร์ด (Georges Paccard) ณ เมืองอานน์ซี (Annecy) ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้เชฟเจอโรมยังได้รับรางวัล "เชฟฝึกหัดยอดเยี่ยม ของจังหวัดโอต-ซาวัว ในปี ค.ศ. 1996" (Best Apprentice of Haute Savoie 1996) และได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล "เชฟฝึกหัดยอดเยี่ยมในการแข่งขันในประเทศฝรั่งเศส" (Best Apprentice in France) อีกด้วย
เชฟเจอโรม เคยทำงานในตำแหน่งหัวหน้าครัว (Chef de Partie) ที่สำนักนายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐฝรั่งเศส สถานที่ที่เขาได้สร้างสรรค์เมนูประจำวันเลิศรสให้กับท่านนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี เชฟเจอโรมผู้มากพรสวรรค์ยังเป็นหุ้นส่วน และทำงานในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Chef de Cuisine)
ประจำห้องอาหาร เลอ ฟรองแซส เฟร้นช์ ไดน์นิ่ง (Le Français French Dining) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารมาเลเซียน แทตเลอร์ (Malaysian Tatler) ให้เป็นหนึ่งในสิบของห้องอาหารยอดเยี่ยมในเมือง นอกจากนี้เชฟเจอโรมยังได้รับ
"รางวัลการปรุงอาหารประจำเทศกาลยอดเยี่ยม" (Excellence for the Most Outstanding Festival Cuisine) จากงาน "มาเลเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล กูรเม่ต์ เฟสติวัล ประจำปี ค.ศ. 2007" (Malaysia International Gourmet Festival 2007) อีกด้วย เชฟหนุ่มไฟแรงได้สั่งสมประสบการณ์การทำอาหาร
จากห้องอาหารเลื่องชื่อจากนานาประเทศ รวมถึง ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าครัว (Chef de Partie) ณ ห้องอาหารเลอ แปร์โกแลส (Le Pergolese) ที่ โรงแรมฮิลตัน โตเกียว ซึ่งห้องอาหารนี้เป็นสาขาย่อยของห้องอาหารสเตฟาน กาโบรัว (Stenphen Gaborieu) ห้องอาหารมิชลินสตาร์ระดับหนึ่งดาวในกรุงปารีส
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานจากการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ อีกทั้งความรู้อย่างแท้จริงในการผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสในแบบดั้งเดิมและแบบร่วมสมัย เชฟเจอโรมพร้อมที่จะสร้างสรรค์โต๊ะอาหารของคุณให้เต็มไปด้วยเมนูแสนอร่อยจากแรงบันดาลใจและวิสัยทัศน์ใหม่ ที่
ลาพาร์ต บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ ทุกท่านจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของห้องอาหารที่ตกแต่งสไตล์อพาร์ตเมนท์แบบปารีส พร้อมลิ้มลองเซ็ตเมนูเลิศรสทั้ง 5 คอร์ส ที่เริ่มต้นความอร่อยจากเมนู Amuse Bouche โดยเชฟเจอโรม มูสหอยเชลล์กับไข่ปลาเทราต์จากฝรั่งเศส(Scallop mousse with French trout roe) ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งเชฟเจอโรมได้นำเสนอการตีความของเขาผ่านทางผลิตภัณฑ์อาหารของฝรั่งเศส อาทิ เนื้อแก้มวัวตุ๋น และเทอร์รีนเยรูซาเล็มอาร์ติโชก เสิร์ฟพร้อมเจลลี่พอร์ตไวน์ และซอสราวิโกเตแบบต้นตำรับ (Braised beef cheek and Jerusalem artichoke terrine accompanied by a fine port wine jelly and classic sauce ravigote) ซึ่งถือเป็นการยกระดับวัตถุดิบและส่วนผสมในการปรุง จากนั้นอิ่มหนำกับอาหารจานหลักซึ่งมีให้เลือก 2 เมนู ประกอบด้วย ไก่เบรส ซอสไวน์ขาว
เสิร์ฟพร้อมทาร์รากอน ผักชนิดต่างๆ และข้าวพิลาฟ (Bresse chicken blanquette revisited with tarragon, baby vegetables and pilaf rice) เชฟเจอโรมได้เพิ่มเติมความถนัดในการปรุงอาหารของเขาลงไปในอาหารประจำชาติฝรั่งเศสจานนี้ที่ได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยมาสเตอร์เชฟวาซองต์ เดอ ลา ชาเปล(Chef Vincent de La Chapelle) ในปีค.ศ. 1735 หรือจะเลือกอิ่มเอมไปกับอาหารประจำชาตรสเลิศอย่างสตูว์อาหารทะเลจากแคว้นบริตทานีย์ ใส่หญ้าฝรั่น หอยแมลงภู่ ปลาคอด ต้นหอม หัวผักกาด เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งอบทั้งเปลือก (Brittany saffron cotriade Mussel, cod, baby leek,turnips and Ratte potato)
คุณยังจะได้อิ่มอร่อยไปกับชีสคอร์สคุณภาพ ได้แก่ ชีสกามองแบร์ เสิร์ฟพร้อม แอ้ปเปิ้ลอบ และขนมปังเมล็ดทานตะวัน (Camembert baked apple with a sunflower seed roll) ซึ่งเป็นหนึ่งในสูตรอาหารที่สร้างสรรค์โดยเชฟเจอโรม จุดเด่นของจานนี้คือ รสสัมผัสของชีสอันละเมียดละไม ที่มาพร้อมกับรสชาติความอร่อยจนได้ชื่อว่าเป็นชีสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ปิดท้ายมื้อค่ำอันแสนอร่อยของคุณที่ ลาพาร์ต บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ ด้วยของหวานที่จะติดตรึงอยู่ในความทรงจำของคุณไปตราบนานเท่านาน โดยเชฟมาพรสวรรค์ของเราพร้อมนำเสนอเมนู
ปารีส-เบรสท์ (Paris-Brest) ชูส์เพสทรีสูตรต้นตำรับ สอดไส้พราลีนกลิ่นเนย ซึ่งมีต้นตำรับและแนวคิดในการปรุงมาจากการฉลองให้กับการแข่งขันจักรยานเส้นทางจากกรุงปารีสถึงเมืองเบรสท์
อิ่มอร่อยไปกับเซ็ตเมนูอาหารมื้อค่ำเลิศรสทั้ง 5 คอร์ส จากงาน Goût de France ได้ที่ ลาพาร์ต บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ ได้ในราคาเพียง 1,900++ บาทต่อหนึ่งท่าน
มาร่วมฉลองกิจกรรม Goût de France ประจำปี ค.ศ. 2016 กับ เชฟเจอโรม ที่ ลาพาร์ต บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ มีความสุขพร้อมเก็บภาพความทรงจำของค่ำคืนแห่งศิลปะการรับประทานอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานกันได้เป็นอย่างดีกับการสร้างสรรค์เมนูอาหารในสไตล์โมเดิร์น
กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02 1269999 ต่อ ลาพาร์ต หรืออีเมลล์ [email protected]
เปิดให้บริการทุกวัน
บาร์ ตั้งแต่เวลา 17:00 น. – 1:00 น.
มื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 19:00 น. – 22:30 น.
ทาปาส ตั้งแต่เวลา 17:00 น. – 24:00 น.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit