นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้ a TVD Company ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการผนึกกำลังของบริษัทในเครือที่มีความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ ที่ประกอบด้วย "ทีวี ไดเร็ค - เจเอ็มแอล ไดเร็ค (ประเทศไทย) - ทีวีดี ช้อปปิ้ง - ทีวีดี โบรกเกอร์ - ทีวีดี เซอร์วิสเซส" โดยปีนี้ TVD เรายังคงเน้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจผู้แบบ (Multiscreen) ด้วย 3 ช่องทางหลักเช่นเคย ซึ่งประกอบด้วย Direct Shopping, Online Shopping และ Retail Shopping ในปีนี้เราก็มั่นใจว่าผลประกอบการจะออกมาตามที่ตั้งเอาไว้ เนื่องจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลกำไร และลดต้นทุนสินค้า, บริหารสินค้าคงคลัง และพัฒนาสินค้าที่ขายต่อเนื่องให้ดีขึ้น รวมถึงการปรับปรุงทีมโลจิสติกส์ให้มีเร็วในระดับ 3-5 วัน การบริหารตั้งสำรองต่างๆ รวมไปถึงการตัดธุรกิจการลงทุนในอินโดไซน่าที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรออกไป อันจะส่งผลให้การบริหารค่าใช้จ่ายทั้งกลุ่มบริษัทในเครือได้ประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายลดลง
อีกทั้งธุรกิจดิจิตอลทีวีมีความเสถียรมากขึ้นทั้งด้านผู้ประกอบและเรตติ้งของแต่ละช่องทำให้ธุรกิจ TV Shopping มีรายได้เพิ่มขึ้น และผลของการโฆษณาที่เพิ่มขึ้นก็มีผลต่อ ช่องทางอื่นๆ ของ ทีวี ไดเร็ค ไม่ว่าจะเป็น แคตตาล็อก ไดเร็คเมล์ เว๊บไซต์ ช่องทางขายผ่านโซเชียลมีเดีย ร้านค้าทีวีไดเร็คโชว์เคส และขายผ่านค้าปลีกทั่วไป สำหรับร้านค้าปลีกของบริษัทเรามีแผนขยายสาขาในพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเพราะเป็นจุดแข็งของบริษัทที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ
นายทรงพล กล่าวต่อว่า "ในส่วนของบริษัทในเครืออย่าง บริษัท เจเอ็มแอล ไดเร็ค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) และ JML (John Mills Limited) ประเทศอังกฤษ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและมีความเชี่ยวชาญ ในการขายสินค้าผ่านจอวีดีโอในร้านค้าปลีกระดับโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้วางจำหน่ายสินค้าประเภท Life Style&Living ที่มีด้วยกัน 3 หมวดหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องครัว และสุขภาพ ด้วยจุดเด่นของสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย และราคาจำหน่ายของสินค้ายังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากเกินไปนัก โดยเริ่มตั้งแต่ที่ 299 บาทต่อชิ้นขึ้นไป จึงสามารถตอบโจทย์ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเพศทุกวัย มีวางจำหน่ายที่โรบินสัน ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านทีวี ไดเร็คโชว์เคส โดยล่าสุดได้วางจำหน่ายที่ร้าน Watsons"ด้านนายธนะบุล มัทธุรนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมง ภายใต้ชื่อช่อง (TVD MOMO) เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) กับบริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไต้หวันและเป็นผู้นำอันดับ 1 เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้ ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งของเรามีการเติบโตตามแผนทั้งยอดขายและผลกำไร ขณะนี้เป็นบริษัทโฮมช้อปปิ้งลำดับที่ 2 ในธุรกิจโฮมช้อปปิ้งเมืองไทย ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20% ด้วยจุดแข็งของสินค้าที่หลายหลาย ฝ่ายการตลาดที่มากประสบการณ์ และทีมโปรดักชั่นมืออาชีพ โดยสามารถรับชมช่อง TVD MOMO ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทาง เจริญเคเบิ้ลทีวี ช่อง 4, PSI ช่อง 37, GMM Z ช่อง 43, SUNBOX ช่อง 43, Big4 ช่อง 43 และ IPM ช่อง 43 นอกจากนี้ยังสามารถช้อปปิ้งสินค้าของเราผ่านทาง E-commerce ได้แล้วที่ www.tvdmomo.com และ แอพพลิเคชั่น TVDMOMO ที่รองรับระบบปฏิบัติการ ทั้ง iOS, Android "ทีวีดีโมโม่ ชอบช้อป คุมชัวร์"
ด้านนายสมบัติ อนันตลาโภชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ได้เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้ผ่านการสอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 58 ภายใต้ บริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทจึงมีความพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าวในทันทีเนื่องจาก TVD ดำเนินธุรกิจการตลาดหลากหลายช่องทาง จัดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคมามากกว่า 16 ปี และมีฐานลูกค้าอยู่มากกว่า 3.2 ล้านรายชื่อ ทำให้เราสามารถคัดเลือกกลุ่มให้เข้ากับประเภทของกรมธรรม์ได้แม่นยำมากกว่า เป็นการสร้าง Big Data ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ได้ในอีกด้านหนึ่ง ที่จะช่วยให้การทำ Data Mining ในอนาคตจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ด้านนายยุวบูรณ์ ขำวังยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีดี เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบริการให้กับบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า ในปี 2559 นี้ บริษัทเตรียมแผนลดค่าใช้จ่ายด้วยเทคโนโลยีอยู่หลายอย่าง และการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกองหลังให้รองรับการเติบโตของกองหน้าได้รวมเร็วมากขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลง และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทรัพยากรของบริษัทฯ ได้ถูกใช้เพื่อกิจการธุรกิจอย่างมีประสิทธิผล และมีประสิทธิภาพวัตถุประสงค์พื้นฐานของกรอบงานควบคุมภายใน ก็เพื่อให้การประกอบกิจกรรมทางธุรกิจเป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายทิศทางที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
นายทรงพล กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากที่บริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงานหลายอย่าง มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมดึงจุดแข็งของแต่ละบริษัทลุยธุรกิจในปี 59 มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 3,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 3,060 ล้านบาท อย่างแน่นอน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit