นายวีระ กล่าวว่า ในส่วนงบประมาณในการสนับสนุนโครงการดังกล่าวได้หารือว่าจะเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้มาตรการลดหย่อนภาษีผลักดันให้เกิดการบูรณาการระหว่างชุมชน ภาคเอกชนกับองค์กรภาครัฐทั้งในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมเอง จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่งเสริมให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยการบริจาคเข้ากองทุนส่งเสริมวัฒนธรรม หรือกองทุนโบราณคดี ซึ่งผู้บริจาคสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้เป็นสองเท่าของวงเงินบริจาค
นายวีระ กล่าวว่า นอกจากโครงการเมืองไทยไทยน่าอยู่น่าเที่ยวแล้ว วธ. มีนโยบายในการส่งเสริมชุมชนหรือหมู่บ้านวัฒนธรรมให้เข้มแข็ง โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ดำเนินการสนับสนุนนโยบายนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการประกาศยกย่องเป็นชุมชนวัฒนธรรมดีเด่น อาทิ หมู่บ้านวัฒนธรรมลาวครั่งบ้านกุดจอก จังหวัดชัยนาท ชุมชนศาลาแดงเหนือ จังหวัดปทุมธานี ตลาดสามชุกตลาดร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี หมู่บ้านจักสานโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เป็นต้น รวมถึงโครงการถนนสายวัฒนธรรม โครงการมหกรรมวิถีถิ่นวิถีไทย ซึ่งเห็นว่าการที่มีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในระดับประเทศ เพื่อให้ชุมชนได้มีพลังในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในด้านวัฒนธรรมเศรษฐกิจ นอกจากนั้น สวธ. ยังสำรวจเพิ่มเติมว่าชุมชนวัฒนธรรมที่ได้รับการประกาศยกย่องแล้วมีชุมชนใดที่มีความเข้มแข็ง ชุมชนใดที่ยังอ่อนแอ และศึกษาแนวทางการสนับสนุนแต่ละชุมชน โดยจัดลำดับความพร้อมของชุมชน เพื่อจัดทำแผนพัฒนาร่วมกับท้องถิ่น คณะกรรมการพัฒนาย่านเมืองเก่า และภาคเอกชนต่อไป