“กระทรวงพาณิชย์” นำชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ

22 Mar 2016
"กระทรวงพาณิชย์" จัดกิจกรรมเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ และนำเกี่ยวข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ โดยมุ่งหวังให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพและบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกร
“กระทรวงพาณิชย์” นำชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "โครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ เป็นโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2557 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ในขณะเดียวกัน โครงการฯ ยังส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มชาวนาตามนโยบายการทำนาแปลงใหญ่ให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มและรวมพื้นที่การผลิตเป็นแปลงขนาดใหญ่ หรือ "Riceberry Valley" (ไรซ์เบอร์รี่ วัลเล่ย์) เพื่อช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลแหล่งทุน ทรัพยากรและการตลาด ง่ายต่อการจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตลอดจนให้เกษตรกรมีอำนาจการต่อรองมากขึ้นในการซื้อหาปัจจัยการผลิต รวมไปถึงการทำตลาดด้วย นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังส่งเสริมระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล (IFOAM) เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว"

"อีกประการหนึ่ง โครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่ของทางกระทรวงพาณิชย์ ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ยกระดับชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น โดยส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ หรือ "Riceberry Valley" (ไรซ์เบอร์รี่ วัลเล่ย์) เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการทำเกษตรแปลงใหญ่ของรัฐบาล ที่เน้นให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มและรวมพื้นที่การผลิตเป็นแปลงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลแหล่งทุน ทรัพยากรและการตลาด ง่ายต่อการจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยกลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเล่ย์ อู่คำ จังหวัดบึงกาฬนี้ ก็ได้ใช้กลยุทธ์ในการทำแผนธุรกิจ และพัฒนาระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล (IFOAM) เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว"

โครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ใช้แคมเปญ "รักใครให้ไรซ์เบอร์รี่" ในการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้รณรงค์ให้รับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์เพื่อสุขภาพ จุดเด่นของข้าวไรซ์เบอร์รี่คือเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้จากการผสมระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทำให้ข้าวมีสีม่วง (เหมือนผลเบอร์รี่) และมีคุณสมบัติทางเนื้อสัมผัสหลังการหุงต้มที่ดี หอม นุ่ม น่ารับประทาน สามารถรับประทานร่วมกับข้าวได้หลายประเภท มีรสชาติอร่อยตามวิถีไทยและวิถีเทศ ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์จะเป็นข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับชีวิตที่สดใส ห่างไกลโรคภัย เพราะข้าวพันธุ์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด และบำรุงร่างกายชะลอความแก่ อีกทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวพันธ์ดังกล่าวในเชิงเศรษฐกิจอีกด้วย

"กระทรวงพาณิชย์ เราตั้งใจจัดทำโครงการนี้ เพื่อให้เป็นโครงการดีๆ อีกช่องทางหนึ่ง ในการรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยใส่ใจสุขภาพ โดยหันมาบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยมีข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์เป็นสินค้านำร่อง ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวมีคุณค่าอย่างมหัศจรรย์ และสนับสนุนให้คนไทยหันมามอบข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มีคุณประโยชน์ที่ดีเพื่อเป็นตัวแทนในการบอกรักให้แก่คนที่คุณรัก ดังชื่อแคมเปญที่ว่า "รักใครให้ไรซ์เบอร์รี่" นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมเกษตรกร ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง ด้วยการกระตุ้นการเพาะปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์ ที่มีความปลอดภัยทั้งกับตัวเกษตรกร และผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ต่อยอดแนวคิดไปสู่ผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ เพื่อยกระดับชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน" นางสาวชุติมา กล่าวปิดท้าย

“กระทรวงพาณิชย์” นำชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ “กระทรวงพาณิชย์” นำชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ “กระทรวงพาณิชย์” นำชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่วัลเลย์ อู่คำ จ.บึงกาฬ