นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า และการค้าส่งสินค้าไอที รวมทั้งธุรกิจการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย ในนาม BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 2/2559 มีมติให้บริษัทฯ เข้าร่วมทุนกับนายธนวัฒน์ แซ่เจียง เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท บานาน่า ชัวร์ จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 60,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ซึ่งบริษัทฯ จะถือหุ้น 51% และนายธนวัฒน์ ถือหุ้น 49%
โดย บานาน่า ชัวร์ จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจเป็นผู้นำเข้าคอมพิวเตอร์ใช้แล้ว และเป็นตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ใช้แล้ว เพื่อขยายฐานลูกค้าจากระดับกลางลงไป ทั้งในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และบุคคลธรรมดา โดยช่องทางจำหน่ายจะมีทั้งค้าปลีกและค้าส่ง รวมถึงการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้อีกด้วย พร้อมตั้งเป้ายอดขาย บานาน่า ชัวร์ ในปี 2559 นี้ ไว้ที่ 300 ล้านบาท
"การร่วมทุนครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการขยายฐานลูกค้าในระดับกลางลงไปซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี และบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ อยู่ในระดับกลางถึงระดับบน และยังเป็นการสนับสนุนให้บานาน่า ไอที มีสินค้าจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสินค้ามาร์จิ้นสูง เพราะคอมพิวเตอร์ใช้แล้วดังกล่าวอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และคอมพิวเตอร์หลายๆ ตัวมีไลเซ่นส์วินโดวส์ติดมาด้วย เป็นอีกช่องทางที่จะสามารถสนับสนุนกลุ่มลูกค้าของบานาน่า บิสซิเนส ได้ นอกจากนี้ นายธนวัฒน์ ผู้ร่วมทุนครั้งนี้ เป็นเจ้าของบริษัท อาร์ที โกลเบิล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำตลาดและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนำเข้าและส่งออก ผลิตดัดแปลง ซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใช้แล้วจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อเมริกา และอีกหลายแห่ง เป็นอีกจุดแข็งสำคัญในการรุกตลาดดังกล่าว" นายสุระ กล่าว
นายสุระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า COM7 มองว่าบานาน่า ชัวร์ ในวันนี้ เป็นแค่ธุรกิจตั้งต้น แต่จะสามารถต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้อีกมากมาย โดยในระยะยาว บริษัทฯ มีแผนที่จะให้บานาน่า ชัวร์ เป็นตัวกลางในตลาดรับซื้อ-ขายสินค้าคอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊ค ที่ใช้แล้ว เนื่องจากในตลาดนี้ยังไม่มีเจ้าตลาดที่ชัดเจน และจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้และอัตรากำไรที่ดีให้กับ COM7 ในอนาคต นอกจากนี้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเรา หรือ CLMV เป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่ และมีจำนวนประชากรที่รวมกันมากกว่าประเทศไทยหลายเท่า อีกทั้งจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อจำนวนประชากรมีไม่ถึงครึ่งของประชากร แต่มีรายได้ต่อประชากรน้อยกว่าคนไทยมาก ดังนั้นโอกาสที่จะนำเครื่องคอมพิวเตอร์มือสองไปขายในกลุ่มตลาดนี้มีโอกาสสูง และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ COM7 จะเข้าไปขยายตลาดในกลุ่มประเทศนี้
ด้านกระแสข่าวว่าในวันที่ 21 มีนาคม 2559 นี้ Apple เตรียมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ โดยคาดว่าจะใช้ชื่อรุ่น iPhone 5se ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ในราคาหลักหมื่นเอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อระดับกลาง ซึ่งยังไม่มีกำลังซื้อสมาร์ทโฟนราคาสูง มองว่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของ COM 7 ส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน หากมีการเปิดตัว iPhone 5se อย่างเป็นทางการ จะได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางเป็นอย่างมาก ซึ่ง COM7 พร้อมวางจำหน่ายสินค้าและดำเนินการด้านการตลาดทันที
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีสาขารวมกันเกือบ 300 สาขาทั่วประเทศ และเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ทั้ง iStudio, iBeat, uStore By Comseven รวมกันเกือบ 100 สาขา และยังมีร้าน BaNANA IT จำนวนกว่า 130 สาขา ที่จำหน่ายสินค้า Apple ในต่างจังหวัด ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากที่สุดรายหนึ่ง ซึ่งโดยปกติที่ผ่านมา มักจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ Apple จากผู้บริโภคเสมอ ซึ่งคาดว่า iPhone 5se ใหม่นี้ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน และมั่นใจ บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์สูงสุด ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่สุดของ Apple ในประเทศไทย และในแถบภูมิภาคอาเซียน ทั้งในแง่ของยอดขายและจำนวนสาขา ทั้งนี้ คาดว่าปลายปีนี้ Apple จะทำการเปิดตัว iPhone 7 ที่จะช่วยเสริมรายได้ให้แก่บริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น
จากข่าวลือว่า "Apple เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่วันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยมีชื่อว่า iPhone 5se ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ในราคาหลักหมื่นต้นๆ เน้นเอาใจผู้มีรายได้ปานกลาง สามารถตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น คาดว่าไอโฟนรุ่นใหม่นี้จะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีซึ่งช่วยสนับสนุนยอดขายและรายได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป เพราะ iPhone 5se เป็นโมเดลใหม่ที่มีการเปิดตลาดครั้งแรก" นายสุระกล่าว
สำหรับผลประกอบการในปี 2559 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปี 2558 ที่ 10% จากการจำหน่ายสินค้า Apple สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน๊ตบุ้ค คอมโพเนนท์ (DIY) คอมพิวเตอร์ประกอบ แล็ปท็อป อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค และ แอสเซสซอรี่ รวมทั้งรายได้จากบริษัทร่วมทุน บานาน่า ชัวร์ โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 300 ล้านบาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit