นางสาว กนกวรรณ ศุภนันตฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความมั่งคั่งและลูกค้าธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กิจกรรมนี้ช่วยให้ทุกคนได้รับความรู้ความเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิต และประวัติความรุ่งเรืองของเมืองไทยริมฟากฝั่งสายน้ำอันยิ่งใหญ่ของประเทศ ไปกับเรือ แกรนด์ เพิร์ล 1 เรือโดยสารสุดหรู ตามสุดยอดเส้นทางการล่องเรือไหว้พระที่วางไว้คือ วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร วังระฆังโฆสิตาราม และวัดอรุณราชวราราม"เรือออกจากฝั่ง มุ่งหน้าไปยัง "วัดสมอแครง"
วัดเทวราชกุญชร มีชื่อเดิมว่า "วัดสมอแครง" พระอารามหลวงชั้นตรี เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เรียกกันว่าวัดสมอแครง สันนิษฐานว่า คำว่า"สมอ" เพี้ยนมาจากคำว่า "ถมอ" (ถะ-หมอ) ในภาษาเขมรแปลว่า หิน กระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงรับเป็นพระอารามหลวงและพระราชทานนามว่า "วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร"
อาจารย์คฑา กล่าวว่า "ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่งที่ทุกคนได้มาร่วมกันสักการะพระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ และได้ขอพรพระอินทร์ที่หน้าลานพระอินทร์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 9 สถานที่ขอพรที่ขลังที่สุด รวมทั้งอธิษฐานหนึ่งข้อกับเทพทันใจที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปขอพรถึงพม่า" จากนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันถวายผ้าไตรแด่ท่านเจ้าอาวาส รับศีล รับพร รับน้ำมนต์กันอย่างชุ่มฉ่ำ แล้วก็พากันลงเรือเพื่อไปยังจุดหมายต่อไปนมัสการวัดหลวงพ่อโต ที่วัดระฆังโฆสิตาราม
อิ่มอร่อยกับอาหารว่างที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ "ไอศกรีมโบราณ" ทำจากน้ำตาลสดรสชาติหอมหวานที่หากินไม่ได้ง่ายๆ กันแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นฝั่งมาทำบุญไหว้พระที่ "วัดระฆัง" ซึ่งมีชื่อทางการว่า "วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร" หนึ่งในวัดที่คนนิยมมาทำบุญไหว้พระ นัยว่าเพื่อให้มีคนนิยมชมชื่น มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี วัดระฆังเป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ และขึ้นยกเป็นพระอารามหลวงที่อยู่ติดกับพระบรมมหาราชวังอาจารย์คฑานำเหล่าลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ ไปไหว้พระประธานยิ้มรับฟ้า นมัสการพระวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใสและพระคาถาชินบัญชรของท่าน เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนชาวไทย ต่อด้วยถวายสังฆทาน ปล่อยปลา และเคาะระฆัง และรับประทานอาหารกลางวันสุดหรูบนเรือเสริมมงคลชีวิต ปิดท้ายทัวร์ไหว้พระที่วัดแจ้งอาจารย์คฑากล่าวถึงเคล็ดลับง่ายๆ ในการหาวัตถุมงคลช่วยเสริมมงคลชีวิต เสริมดวง เสริมบารมีตามจักรราศีปีเกิด
-ปีชวด วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรจัดตั้งรูปเจ้าพ่อกวนอูทั้งแบบถือตำราพิชัยสงคราม และแบบถือดาบง้าว หันไปทางทิศตะวันออก หนึ่งในสองทิศที่ดีที่สุดของปีนี้
-ปีฉลู วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรจัดตั้งรูปกิเลนหันไปทางทิศตะวันออก ตำแหน่งที่ดาวบินเก้าม่วงสถิตอยู่ จะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น
-ปีขาล วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปม้าหันไปทางทิศตะวันตก เป็นทิศมงคลของปีนี้ จะช่วยฟันฝ่าอุปสรรคไปได้
-ปีเถาะ วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยหรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นตำแหน่งโชคลาภของปีนี้ จะช่วยให้มีลาภผลบริบูรณ์ยิ่งขึ้น
-ปีมะโรง วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งปลาหลีฮื้อหรือปลาคาร์ฟจีน หันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งมีดาวบินเก้าม่วงสถิตอยู่ จะช่วยให้ทะยานไกล และคว้าความสำเร็จมาครอบครองได้
-ปีมะเส็ง วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปฮก ลก ซิ่วหันไปทางทิศตะวันตก เพื่อที่จะได้รับโชคลาภอย่างเต็มที่
-ปีมะเมีย วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปคางคกคาบเหรียญ หันไปทิศตะวันออก หนึ่งในสองทิศมงคลของปีนี้ จะป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามากล้ำกราย ทั้งยังช่วยกวักเรียกทรัพย์
-ปีมะแม วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปกวางหันไปทางทิศตะวันตก ที่มีดาวบินสีเขียวสถิตอยู่ จะช่วยให้มีความโชคดีสามประการ และช่วยให้ปลอดจากโรคาพยาธิ
-ปีวอก วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปมังกรหันไปทางทิศตะวันออก หรือหาจี้รูปหนูคล้องคอ จะช่วยให้โชคดี
-ปีระกา วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรจัดตั้งรูปเต่า หันไปทางทิศตะวันตก จะช่วยให้สามารถบรรลุถึงเส้นชัยได้
-ปีจอ วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรตั้งรูปปี่เซี้ยะ หันไปทางทิศตะวันออกที่ดาวบินเก้าม่วงและความมงคลสองประการสถิตอยู่
-ปีกุน วัตถุมงคลเสริมดวง ปี 2559 ควรจัดตั้งรูปง้วนป้อ หันไปทางทิศตะวันตก เพื่อรับความโชคดี หรือหาจี้รูปกระต่ายหรือรูปแพะมาห้อย จะช่วยเสริมโชคชะตา
ถึงท่าน้ำวัดแจ้ง หรือ "วัดอรุณ" ซึ่งมีชื่อเต็มว่า "วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร" ที่มีผู้นิยมมาไหว้พระ เพื่อเสริมสิริมงคล และชีวิตโรจน์รุ่งทุกคืนวัน เป็นวัดสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดมะกอก เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ในปี พ.ศ. 2322 ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในปี พ.ศ. 2327 อีกทั้งยังเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟนับเป็นกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ในการเข้ามาสวดมนต์ในพระอุโบสถต่อหน้าพระประธาน พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ทุกคนพร้อมใจกันเปล่งเสียงสวดมนต์ในบทสวดมนต์ท่วงทำนองสรภัญญะ ที่หลายคนคงจำได้ว่าคือบทสวดมนต์ปลายสัปดาห์ตอนเรียนชั้นประถม ที่ขึ้นด้วย...องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน...
ยิ่งกว่านั้นอาจารย์คฑายังแนะนำว่า ทุกคนควรหมั่นแผ่เมตตาให้แก่ผู้ที่เป็นที่รักและผู้ที่เป็นศัตรู ซึ่งถือเป็นการทำบุญสร้างบารมีที่ยิ่งใหญ่เพราะทำให้จิตใจเราปราศจากความขุ่นมัว และเต็มไปด้วยความผ่องใสบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ทุกคนที่มาทริปนี้ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกประทับใจ อิ่มเอมใจ ได้รับทั้งพรพระ สิ่งมงคลเสริมบารมี โชค ลาภ และชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างมีระดับ พร้อมกับอะไรๆ ที่ดูง่ายและสะดวกไปหมดจากกรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ