นายนันทิวัต ธรรมหทัย ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา- โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ต้องการสนับสนุนให้วัยรุ่นและคนไทยทุกคนใช้ชีวิตแอ็คทีฟและบริโภคอย่างสมดุล เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน เราจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอย่างสมดุลอย่างต่อเนื่อง และโค้กคัพ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องร่วม 36 ปี เราอยากให้โครงการโค้กคัพ นี้เป็นสนามให้เยาวชนไทยได้เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และได้มีโอกาสฝึกทักษะต่างๆ อย่างรอบด้าน ที่ผ่านมามีเยาวชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 200,000 คน และมีนักฟุตบอลเก่งๆ ที่ประสบความสำเร็จจากโค้ก คัพ และก้าวไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพมากมาย อาทิ ธีรศิลป์ แดงดา, กวินทร์ ธรรมสัจจานนท์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และอาทิตย์ ดาวสว่าง เป็นต้น"
สำหรับในการแข่งขัน "โค้กคัพ" รอบชิงชนะเลิศประจำปี 2558 เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีเยาวชนไทย นักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่ฉายแววเจิดจรัสในวงการอีกครั้ง นายวงศกร ชัยกุลเทวินทร์ กัปตันทีมฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี คว้ารางวัล "Man of The Match" ไปครองหลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม และนำทีมคว้าแชมป์เป็นปีที่สองติดต่อกัน กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่เข้ามาร่วมเกมการแข่งขันฟุตบอลว่า"คุณพ่อถือเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ผมมาเตะฟุตบอล ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ คุณพ่อจะพาผมไปเตะฟุตบอลเป็นประจำในวันหยุด ทำให้ผมรู้สึกว่าการได้วิ่งในสนามเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ที่สำคัญยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงด้วยครับ จากความสุขที่ได้เตะฟุตบอลในวันหยุดผลักดันให้ผมเริ่มสนใจการแข่งขันฟุตบอลอย่างจริงจังมากขึ้น ผมเริ่มฝึกซ้อมทุกวันจนได้เข้าร่วมทีมเอสซีจี เมืองทองชุดเยาวชน และได้เข้าร่วมการแข่งขันโค้ก คัพ ซึ่งผมรู้สึกว่าการแข่งขันนี้ถือเป็นการแข่งขันที่ดีมากๆ เพราะเป็นรายการใหญ่รายการหนึ่งในระดับเยาวชน ทำให้เราได้มีโอกาสโชว์ความสามารถ เพื่อเล่นในระดับอาชีพต่อไป"
ถ้าถามถึงความท้าทายในการเข้าร่วมแข่งขันโค้ก คัพ ครั้งนี้ วงศกร บอกว่า"สิ่งที่ท้าทายที่สุด คือ การที่ต้องเป็นกัปตันนำทีม เราต้องมีทั้งความเป็นผู้นำที่จะต้องทำให้ทีมเชื่อในสิ่งที่เราบอก ในขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องประสานให้ทีมมีความสามัคคีกัน รวมถึงเราต้องมีความเข้าอกเข้าใจเพื่อนๆ ในทีมเราด้วย ถือเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่เราก็ถือว่าได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ ทำให้เราพัฒนาศักยภาพได้มากขึ้น เพราะนอกจากการฝึกซ้อมทักษะด้านการเล่นฟุตบอลแล้ว เราก็ยังได้พัฒนาทักษะการเป็นผู้นำด้วย"
อีกหนึ่งดวงดาวจรัสแสง นายอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ กองกลางดาวรุ่งจากทีมแห่งแดนอีสานใต้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้ารางวัลรองแชมป์ กล่าวถึงประสบการณ์ในครั้งนี้ว่า "ผมเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเข้าร่วมแข่งขันโค้กคัพ มา 3 สมัยแล้ว ซึ่งการเข้าร่วมแต่ละปี ทำให้ผมได้ประสบการณ์มากขึ้น ทั้งประสบการณ์และเทคนิคการเล่นฟุตบอล การได้พบเพื่อนใหม่ๆ และการได้มีโอกาสลงสนามแข่งขัน ซึ่งก็ทำให้ตัวผมได้พัฒนาความสามารถตัวเองเพื่อก้าวสู่อนาคต ถือว่าการเข้าร่วมโค้กคัพนี้ ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่ดีและได้โอกาสมากมาย"
เมื่อถามถึงเคล็ดลับการประสบความสำเร็จในการเป็นนักฟุตบอลเยาวชน อานนท์ บอกว่า "ผมว่าการแบ่งเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การเรียนก็ต้องไม่ทิ้ง ผมจะตั้งใจเรียนในห้องให้มากที่สุด และจะใช้เวลาหลังเลิกเรียน หรือวันหยุดในการซ้อมฟุตบอล ซึ่งผมก็อยากจะฝากถึงน้องๆ รุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอล ขอให้มีความตั้งใจ ฝึกซ้อมเรื่อยๆ และมาเข้าร่วมแข่งขันในโครงการโค้กคัพ นี้ จะช่วยให้น้องๆ สามารถถึงความฝันได้ไม่ยาก"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit