วธ.เปิดตลาดคลองผดุงฯ ชูวัฒนธรรมสร้างชาติ ตลาดวัฒนธรรมสร้างสุข-ขนผลงานศิลปะ-ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม จำหน่าย พร้อมจัดประมูลผลงานศิลปินแห่งชาติ

27 Jan 2016
นายวีระโรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมจัดงานผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ทุนทางวัฒนธรรมสร้างมูลค่า จากภูมิปัญญาไทยก้าวไปทั่วโลก เพื่อสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตสินค้าทางวัฒนธรรมซึ่งผู้บริโภคจะมีโอกาสได้มีสิทธิเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมจากผู้ผลิตโดยตรง อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและมรดกโลกทางภูมิปัญญาไทยที่มีคุณภาพมาตรฐานไปสู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตามนโยบายตลาดนัดสินค้าชุมชนของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-26 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ณ คลองผดุงกรุงเกษม

นายวีระ กล่าวต่อว่า ภายในการจัดงาน วธ. ได้รวบรวมมรดกวัฒนธรรมและธรรมชาติ ศาสนาและศิลปะ สื่อ และงานสร้างสรรค์และออกแบบมาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ งานฝีมือ หัตถกรรม ผ้าไทย อาหารไทย ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การแพทย์แผนไทย ศิลปะการแสดง ดนตรีนาฏศิลป์ ทัศนศิลป์ พุทธศิลป์ สังฆภัณฑ์ ภาพยนตร์ มัลติมีเดีย วีดีทัศน์ เกม การกระจายเสียง การพิมพ์ การออกแบบ สถาปัตยกรรม แฟชั่นและการโฆษณา โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ได้แก่ เวทีกลาง สำหรับการแสดงศิลปวัฒนธรรม พื้นที่การค้าขายสินค้าทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมวัฒนธรรม สำหรับแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม และพื้นที่วัฒนธรรมชวนชิม สำหรับจำหน่ายสินค้าและเครื่องดื่มของดีบ้านฉัน โด่งดังทั่วโลก การประมูลภาพเขียนจากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินร่วมสมัย รวมถึงศิลปินอิสระ การประกวดออกแบบแฟชั่น เดินแบบผ้าไทย แฟชั่นโชว์

เบื้องต้นได้เปิดให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม อาหารปรุงสด และเครื่องดื่ม ลงทะเบียนเพื่อจำหน่ายสินค้าภายในงานซึ่งขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ราย ที่สำคัญ วธ. ได้มีแนวคิดในการนำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมมาจัดแสดงให้ครอบคลุมทั้งด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม โดยแบ่งการจัดงานเป็น 4 สัปดาห์ ได้แก่ สัปดาห์ที่ 1 (2-7 ก.พ.) วันตรุษจีน มั่งมี ศรีสุข สัปดาห์ที่ 2 (8-14ก.พ.) ตลาดสร้างรัก สัปดาห์ที่ 3 (15-21 ก.พ.) สินค้าสร้างสุข และสัปดาห์ที่ 4 (22-26 ก.พ.) วันมาฆบูชา ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาผิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เพื่อนำทุนทางวัฒนธรรมมาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนไปสู่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน