นายวีระ กล่าวว่า บอกว่า ทั้งนี้เชื่อว่าโครงการดังกล่าวเป็นการต่อยอดองค์ความรู้พุทธประวัติอย่างถูกต้องให้กับเจ้าคณะปกครอง คณะพระสงฆ์ในการนำความรู้ไปถ่ายทอดให้พุทธศาสนิกชนและคณะสงฆ์ในปกครองได้เรียนรู้ ให้เข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น เพราะพระสงฆ์ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยตรง เมื่อได้ไปเห็นบรรยากาศสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ตามที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกแล้ว เชื่อว่าจะยิ่งเสริมสร้างความศรัทธาเลื่อมใสในพุทธประวัติ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดพระพุทธศาสนาและเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงที่มาของพระธรรมคำสอนที่พิสูจน์ได้จริง ที่สำคัญเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิอย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้การเผยแผ่พุทธศาสนาไปยังพุทธศาสนิกชนเกิดผลดีมากยิ่งขึ้น
รมว.วธ. กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจาก กรมการศาสนาว่า เนื่องจากต้องการให้คณะพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน ได้รับความสะดวกและปฏิบัติศาสนกิจได้ถูกต้องตามหลักศาสนา พระเทพโพธิวิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจพุทธศาสนิกชน ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล จำนวน 9 ศูนย์ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา ได้แก่ ที่วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล และที่ประเทศอินเดีย อีก 8 ศูนย์ ได้แก่ ที่วัดไทยกุสินารา, วัดไทยพาราณสี, วัดไทยพุทธคยา, วัดไทยสารนาถ, วัดไทยเชตวันมหาวิหาร, วัดไทยนวราชรัตนาราม,วัดไทยนวมินทร์ธัมมิกราช และวัดอโยธยารามราชธานี