นิทรรศการในครั้งนี้จะจัดแสดงผลงานศิลปะของ ราฟาเอลโล โซมาซซิ ศิลปินมากพรสวรรค์ชาวสวิสเซอร์แลนด์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่แสดงออกมาในรูปแบบของสัญลักษณ์จากที่พำนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเป็นเวลามากกว่า 10 ปี
ศิลปินอารมณ์ดีผู้เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณผู้นี้ได้รังสรรค์งานศิลปะในชุด Cosmic Portraits ขึ้น ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1985 ที่ประกอบไปด้วย ผลงานในหัวข้อ "พระราชินีอลิซาเบธ" (Queen Elisabeth) "บริจิตต์ บาร์โด" (Brigitte Bardot) "เจ้าหญิงแคโลไลน์แห่งโมนาโค" (Caroline of Monaco) รวมถึงนักสะสมงานศิลปะและเพื่อนๆ ผู้ที่ราฟาเอลโลได้ทำการวิจัย ภาพเหมือนของบุคคลเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนถึงลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล แต่สะท้อนถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียดของแต่ละบุคคลที่เกี่ยวพันกับคุณค่าของสิ่งแวดล้อม
ผลงานศิลปะของ ราฟาเอลโล โซมาซซิ นั้น สร้างขึ้นมาจากพื้นฐานทางประวัติศาสตร์และความพยายามในการเพิ่มเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปในบทกวีแห่งความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของ ราฟาเอลโลกับสี
"เป็นความโชคดีของผม ที่ผมได้เดินทางมายังประเทศไทยและได้พบกับหมู่บ้านโชคชัย สถานที่ ที่เติมเต็มความฝันของผมในฐานะชายหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของทฤษฎีเพิ่มการบริโภคสินค้าเพื่อผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ และหันมาอุทิศตัวให้กับการค้นหาคุณค่าหลักซึ่งส่งเสริมชีวิตของมนุษยชาติ" ราฟาเอลโล กล่าว
ในค่ำคืนนั้น จะเริ่มต้นต้วยค็อกเทลต้อนรับและคานาเป้เลิศรส ณ บริเวณล็อบบี้ พร้อมเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงอันไพเราะจากดีเจมืออาชีพ ในขณะที่แขกผู้ที่รักผลงานศิลปะทุกท่านจะได้ชื่นชมนิทรรศการศิลปะแบบเต็มรูปแบบ ณ เอส แกลเลอรี (S Gallery)
มร.วิลเลี่ยม ฮานดริกแมน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท กล่าวว่า "เอส แกลเลอรี (S Gallery) เป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในโรงแรมหรูระดับห้าดาวในกรุงเทพมหานคร ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและการออกแบบในสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักปฏิบัติและปรัชญาทั้งสี่ข้อของโรงแรมโซฟิเทล พื้นที่ของเอส แกลเลอรี (S Gallery) จะมีการจัดแสดงนิทรรศงานศิลปะโดยศิลปินที่กำลังสร้างชื่อเสียง และศิลปินอันเลื่องชื่อที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วทั้งชาวไทยและชาวยุโรปสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ที่ชื่นชอบผลงานศิลปะทุกท่านที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
เอส แกลเลอรี มีความยินดีที่จะจัดแสดง งานนิทรรศการศิลปะอันมีชีวิตชีวาภายใต้ชื่อ "Cosmic Portraits" โดย ราฟาเอลโล โซมาซซิ ผลงานศิลปะคอลเลกชันภาพอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองส่วนตัวของแต่ละบุคคลอย่างลึกซึ้งที่มีต่อการใช้ชีวิต
ผลงานศิลปะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์นี้จะจัดแสดงที่ เอส แกลลอรี (S Gallery) จนถึงวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559 นี้
Cosmic Portraits โดย ราฟาเอลโล โซมาซซิ
สี เป็นส่วนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่มนุษย์มีต่อโลกใบนี้ ทั้งทางด้านชีวภาพและทางด้านวัฒนธรรม
เซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton) ได้พัฒนาแผนภาพวงกลมของสีต่างๆ ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1666 จากนั้นมานักวิทยาศาสตร์และศิลปินหลายท่านได้ทำการศึกษาและออกแบบแนวคิดนี้ในหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในการสำรวจทฤษฎีสีอย่างเป็นทางการในยุคแรกนั้น มาจาก โยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ (Johann Wolfgang von Goethe) กวี ศิลปิน และนักการเมืองชาวเยอรมัน ผู้ที่ได้เผยแพร่ทฤษฎีสีในปี ค.ศ.1810
หนึ่งในความคิดเห็นที่ขัดแย้งที่สุดของเกอเทอ (Goethe) คือ การคัดค้านความคิดในเรื่องสเปกตรัมสีของนิวตันที่ได้แนะนำไว้ว่า ความมืดเป็นส่วนผสมที่มีพลังมากกว่าการขาดหายไปของแสงสว่างที่ไม่มีสาระสำคัญ แสงสว่างและความมืด ความสว่างและความไม่ชัดแจ้ง หรือถ้าหากต้องการการแสดงออกที่มากกว่าปกติ แสงสว่างและการขาดหายไป ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับการผลิตสี... ด้วยตัวของสีเองนั้นเกิดจากระดับความเข้มข้นของความมืดนั่นเอง
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอันหลากหลายนั้นได้มาจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางด้านสังคม ครอบครัว ความสัมพันธ์ที่มีต่อธรรมชาติ และการห่อหุ้มโลกใบนี้อย่างละเอียดอ่อน ระบบสุริยะ และจักรราศีที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์ต่างๆ อีกทั้งความใหญ่โตมโหฬารของจักรวาลที่รายล้อมมนุษย์แต่ละคนทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ความเป็นจริงของ "ความสัมพันธ์ระหว่างกัน" (Inter relations) เริ่มด้วยห้วงเวลาแรกของการปรากฏตัวขึ้นของมนุษย์บนโลกใบนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้รับการแปลออกมาในรูปแบบและสีสัน ในฐานะสัญลักษณ์ของ "ตัวตน" ของเรา ภาพบุคคลเหมือนจริงกลายเป็นกระจกของหลากหลายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยชาติและจักรวาล คุณค่าต่างๆ นั้นได้รับการแปลออกมาในรูปแบบของสีสันและรูปทรงต่างๆ ตามวิธีการโบราณของการเชื่อมต่อระหว่างตัวอักษรกับ พระอาทิตย์ ดาวเคราะห์ จักรราศี และจักรวาล
ผลลัพธ์ทางด้านเทคนิคของทฤษฎีการหักเหของแสงและสูตรทางเคมี โดยการรวบรวมแม่สีทางแสง ทั้งสามเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้สีม่วงแดง (Magenta) สีเหลือง (Yellow) และสีฟ้าอมเขียว (Cyan) นั้น ทำให้เกิดการผสมสีในจานผสมสีเพื่อให้ได้สีสันมากมายแบบไม่มีที่สิ้นสุด เมนูสีต่างๆ เหล่านี้ทำให้การนำเอาหลากหลายทฤษฎีโบราณมาใช้ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล ดังนั้นจึงเกิดการตีความและการรวบรวมของหลากหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับ สีและรูปทรงต่างๆ จากนักปรัชญาชาวกรีกหลายท่านที่ได้ถ่ายทอดความรู้ไปยังโรงเรียนสอนเล่นแร่แปรธาตุ เกอเทอ (Goethe) เซนต์ ทิฟเวอร์ส ดาร์เวลเดอร์ (Saint Ives D'Alveidre) และโยฮันน์ อิทเท็น (Johannes Itten) นักทฤษฎีสีที่ดีที่สุด (par excellence) ในช่วงเวลาของเรา
ไม่เป็นเพียงแค่ระบบการประมวลผลเท่านั้นแต่ค่อนข้างเป็นเหมือนงานบทกวีแห่งความรักในแต่ละโครงการที่เขาได้ผลิตงานศิลปะขึ้น ผลงานภาพวาดหรือผลงานประติมากรรมแต่ละชิ้นนั้นมาจากความทรงจำอันละเอียดลออและลึกซึ้งของบุคลิกภาพเหล่านั้นในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งสะท้อนผ่านทางผลงานวิจัยและการสอนที่ได้สร้างสูตรของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และวิถีทางใหม่ๆ ของการใช้ชีวิตในสังคม
งานแสดงศิลปะชุด "Cosmic Portraits" ตัวแทนศิลปะรูปลักษณ์ของภาพบุคคลทางกายภาพเหมือนจริงที่แสดงออกมาแบบเป็นรูปเป็นร่าง ถือเป็นการเอาชนะโดยใช้การตีความอันละเอียดอ่อนที่มี ต่อบุคลิกภาพของแต่ละคน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มาร์ติน เกอร์ลิเย่ร์ ที่ปรึกษางานศิลปะแห่งมูนสตาร์ โทร. 093 582 6588 หรืออีเมล์ [email protected]
เอส แกลเลอรี (S Gallery) โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท
เปิดให้ชมงานศิลปะทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit