“มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016” ครั้งแรกในประเทศไทย ชูความเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน และกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย

12 Feb 2016
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า และ คณะผู้จัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ "งานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า - ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016" งานแสดงสุดยอดความอลังการของเรือสำราญนวัตกรรมสุดล้ำทั้งหมดกว่า 50 ลำ ซึ่งจัดขึ้น เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมี ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มาร่วมเป็นเกียรติ โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาล และเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและเพิ่มพูนรายได้เข้าประเทศไทย โดยงานแสดงจะจัดขึ้นต่อเนื่องจากวันนี้ - 14 กุมภาพันธ์ 2559 ณ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จังหวัดภูเก็ต
“มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016” ครั้งแรกในประเทศไทย ชูความเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน และกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย

ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมในฐานะตัวแทนรัฐบาลมีความยินดีเป็นอย่างมากที่งานนี้ได้ถูกจัดขึ้นมาอย่างสมศักดิ์ศรีของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ โดยเฉพาะมีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสามารถเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อชักจูงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยสร้างแรงจูงใจและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกื้อกูลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางน้ำของประเทศ รัฐบาลจึงเห็นว่าการจัดงานแสดงเรือสำราญ (Yacht) และท่าเทียบเรือสำราญ (Marine) พร้อมกับกิจกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่องอื่นๆ เป็นการตอบรับนโยบายของรัฐบาลที่ดี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดงาน "มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า" ซึ่งนอกจากเพื่อยกระดับการจัดงานแสดงเรือสำราญของภาคเอกชน และเปิดตัวเรือสำราญขนาดใหญ่ (Super Yacht) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ประการสำคัญการจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการแสดงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน (Thailand : Marina Hub ASEAN) อีกด้วย

ท้ายนี้ ผมขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม หน่วยงานหลักที่ดำเนินการและหน่วยงานงานสนับสนุน อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จังหวัดภูเก็ต สภาหอกหารค้าแห่งประเทศไทย สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทย ผู้ร่วมจัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า รวมทั้งผู้ประกอบการมารีน่า บริษัท อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า จำกัด และบริษัท ทีแอล อีเวนท์ส (ไทยแลนด์) จำกัด ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนร่วมดำเนินการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าในครั้งนี้"

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาล ในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง ยั่งยืน และเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญในการทำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งดิฉันเห็นพ้องกันว่าการจัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่าขึ้นในประเทศไทย นับเป็นกิจกรรมการแสดงเรือสำราญครั้งสำคัญยิ่งที่จะนำและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล ทางน้ำ ธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ให้ได้รับการพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการจัดหกกรรมเรือสำราญและมารีน่า เห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นการประชาสัมพันธ์ และสร้างภาพลักษณ์ให้นานาประเทศและองค์กรหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวระดับโลกมองเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ในการรองรับการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเรือสำราญ และมีท่าเรือมารีน่า กิจกรรมและธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ซึ่งพร้อมที่จะรองรับการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญได้อย่างมีมาตรฐานระดับโลก ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน ได้อย่างภาคภูมิต่อไป"

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า "ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะได้เห็นได้ว่าความนิยมด้านเรือสำราญในไทยและอาเซียนมีอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากยังไม่มีข้อตกลงเช่าเหมาลำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ ตลาดไม่สามารถโตได้เหมือนเรือสำราญแถบทะเลแคริบเบียนที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวท่องได้อย่างต่อเนื่อง จากที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ของประเทศอื่นๆ ที่ล่องเรือสำราญในท่ามกลางบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามนั้น จะสามารถส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างมากมาย ดังนี้ เรือสำราญจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนได้ตระหนักถึงศักยภาพของธุรกิจเรือสำราญและมารีน่า และแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาล ในการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน

ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงเงื่อนไขข้อกฎหมายที่จำเป็นสำหรับกฎบัตรบังคับเรือสำราญและการดำเนินธุรกิจเรือสำราญ รวมทั้ง ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สามารถเอื้ออำนวยกับเรือสำราญ กฎของกรมศุลกากร สนับสนุนสถานที่ใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาเป็นท่าจอดรถ ตลอดจนมองหาภาคเอกชนมาร่วมลงลงทุน แผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญฯคือ การนำเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับเรือสำราญ อู่ต่อเรือและซ่อมเรือ ชิ้นส่วนและอะไหล่เรือ นักลงทุนธุรกิจ กีฬาทางน้ำ และผู้ดำเนินการเดินเรือเพื่อการนันทนาการ เข้าร่วมดำเนินการไปด้วยกัน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถช่วยพัฒนาและนำไปสู่อุตสาหกรรมที่กว้างขวาง ที่สร้างงานให้คนในท้องถิ่น และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจให้ประเทศโดยตรง โดยเฉพาะได้ส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวทางทะเลเพิ่มขึ้น และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในอนาคต"

มร. แอนดี้ เทรดเวล์ล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 3L Events (Thailand) Co., Ltd. คณะผู้จัดงานมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า เปิดเผยว่า "มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016" ครั้งนี้ จะเป็นการโชว์เรือสำราญทั้งหมดกว่า 50 ลำ จากเรือสำราญแบรนด์ดังระดับโลกมาร่วมสร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการ เจ้าของเรือ อู่ต่อเรือและซ่อมเรือ นักลงทุน รวมทั้งผู้เข้าชมงานทั่วไป ซึ่งระหว่างวันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะผู้จัดงานได้จัดกิจกรรมกีฬาทางน้ำ อาทิ บอร์ดยืนพาย เรือใบ คายัค และปาร์ตี้ชายหาด ตามสถานที่ต่างๆ ภายในเกาะภูเก็ต ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดี"

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thailandyachtshow.com หรือหากต้องการเข้าร่วมชมงาน "มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า – ไทยแลนด์ ยอร์ช โชว์ 2016" สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานได้ที่เว็บไซต์ www.thailandyachtshow.com/visitor-registration หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ Fleur Tomlinson เพื่อเข้าชมเรือสำราญ ที่อีเมล์ [email protected]