ต้องทำศูนย์การค้าที่แฟลตดินแดง

12 Feb 2016
การเคหะแห่งชาติควรสร้างศูนย์การค้าให้กับชาวชุมชนดินแดง 20,292 หน่วย เพื่อหารายได้มาพัฒนาเพื่อคนจน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้อยู่อาศัย หาไม่เท่ากับสมคบกับศูนย์การค้าใหญ่ๆ ที่มีอยู่แล้ว!

ตามที่การเคหะแห่งชาติจะมีโครงการฟื้นฟูชุมชนดินแดง โดยจะเพิ่มจำนวนแฟลตเช่าจากเดิมให้มีจำนวนรวมถึง 20,292 หน่วย (bit.ly/1noK9eB) นั้นเท่ากับเป็นการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ในแนวคิดเมืองในเมือง (City in the City) แต่มีบางส่วนกลัวว่าจะเอาที่ดินไปสร้างศูนย์การค้าทำประโยชน์ การเคหะแห่งชาติจึงให้สัญญากับประชาชนว่าจะไม่สร้างแฟลต แต่ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เชื่อว่าการไม่สร้างศูนย์การค้าเป็นแนวคิด "ดรามา" ที่ส่งผลร้ายต่อสังคมโดยตรง โดย ดร.โสภณ อธิบายว่า

1. การมีชุมชนอยู่รวมกันถึง 20,292 ครัวเรือน หรือรวมจำนวนประชากรเกือบแสนคน ยิ่งหากนับจำนวนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงด้วยแล้ว น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 300,000 คน มีขนาดใหญ่เท่ากับครึ่งหนึ่งของเมืองพัทยาที่รวมประชากรแฝงด้วยแล้วจะมีราว 600,000 คน จึงควรมีศูนย์การค้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้อยู่อาศัย โดยสร้างบนที่ดินของการเคหะแห่งชาติ การมีศูนย์การค้าทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปศูนย์การค้าที่อื่น หากสมมติว่าประชาชนราว 50,000 คนจาก 300,000 คนนี้เข้าศูนย์การค้าทุกวัน และหากมีศูนย์การค้าในชุมชนนี้เอง ก็จะประหยัดเงินค่าเดินทางคนละ 10 บาท ก็รวมเป็นเงิน 500,000 บาทต่อวัน หรือปีละ 182.5 ล้านบาท หากคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบัน ณ อัตราคิดลดที่ 10% ก็อาจเป็นเงินรวมถึง 1,825 ล้านบาทเข้าไปแล้ว นี่คือผลประโยชน์ที่ประชาชนจะเสียไปหากไม่มีศูนย์การค้าในท้องถิ่นเอง

2. การมีศูนย์การค้ายังสามารถสร้างรายได้ให้กับการเคหะแห่งชาติได้มหาศาล ที่ดินบริเวณแฟลต 1-8 น่ามีมีราคาตารางวาละประมาณ 500,000 บาท หากนำมาให้เช่าทำศูนย์การค้า 4,000 ตารางวา ก็เป็นเงิน 2,000 ล้านบาท หากนำไปให้เอกชนเช่า 30 ปี เช่นเดียวกับเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ก็จะได้เงินประมาณ 60% ของมูลค่าหรือ 1,200 ล้านบาท นำเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้อีกจำนวนมาก การกีดขวางไม่ให้มีศูนย์การค้า จึงทำให้ประเทศชาติและประชาชนสูญเสียโอกาส การกล่าวอ้างลอย ๆ ว่ากลัวจะถูกโกงนั้นเป็น "ดรามา" อันเลวร้าย ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรดีๆ เพื่อชาติ

3. การไม่มีศูนย์การค้ายังเท่ากับเป็นการอำนวยประโยชน์ให้กับศูนย์การค้าโดยรอบ ให้ไม่มีคู่แข่ง เป็นการรักษาประโยชน์ให้กับเอกชนที่ทำศูนย์การค้าในบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นย่านรัชดาภิเษก พระรามที่ 9 ลาดพร้าว ประตูน้ำ หรืออื่นๆ กลายเป็น "มือที่มองไม่เห็น" ในการปกป้องผลประโยชน์ของนายทุนศูนย์การค้าที่ทำอยู่ในขณะนี้ แต่ทำร้ายและทำลายประโยชน์ของประชาชนที่จะได้เดินทางไปจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลามาก

4. บางท่านถึงขนาด "คิดชั่ว" ว่าดีแล้วที่ไม่มีศูนย์การค้าในย่านนี้ จะได้ไม่ส่งเสริมให้ชาวบ้าน "เสพ" หรือ "นิยมวัตถุ" ซึ่งข้อนี้ เป็นการดูถูกภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเฉพาะแม่บ้านที่ต้องซื้อสินค้าให้คุ้มค่าที่สุด หรือแม้แต่เด็กและเยาวชน ก็มีวิจารณญาณของตนเอง ผู้บริหารประเทศไทยหรือองค์กรต่าง ๆ ต้องให้ประชาชนตัดสินอนาคตของตนเอง ได้ลองผิดลองถูกเอง จะมาด่วนตัดสินใจให้ในฐานะ "ผู้รู้ดี" และดูแคลนภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ได้ เพราะนั่นมีแน่พวกเผด็จการทรราชเท่านั้นที่จะคิดแทนโดยเฉพาะไปกำกับชีวิตของคนอื่น นี่จึงเป็นกรณีศึกษาอีกกรณีหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึง "ดรามา" ที่ทำลายผลประโยชน์ของชาติและประชาชน

ที่มา:https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/e/e3/Refurbished_CentralPlaza_Ladprao.jpg

อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 58/2559: วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559

ผู้แถลง:

ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected]) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit