พ.ศ. 2559 – ปีที่เทคโนโลยีจะเริ่มสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้บริโภค

04 Feb 2016
โดย: อูริ กูเรวิตซ์, ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์และข้อมูลการตลาดในเชิงลึก, แอมดอกซ์

ดีไวซ์ต่างๆเข้ามามีบทบาทในชีวิตยุคดิจิตอลเป็นอย่างมาก โดยเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสาร ทำให้เราเชื่อมต่อกับบุคคล, บ้าน, งาน และดีไวซ์อื่นๆอย่างง่ายดาย สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะก้าวหน้าไปมาก แต่เรายังคงคาดหวังให้มีนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อมารองรับความต้องการอยู่เสมอ และต้องผิดหวังเพราะเทคโนโลยีดังกล่าวยังไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้น แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

เมื่อเราสมัครแพ็คเกจโทรศัพท์ เราจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตเวิร์คที่รวดเร็วกว่าเดิม, การย้ายระบบเชื่อมต่อเป็นระบบ Wi-Fi ที่ไม่สะดุด และ VoLTE (Voice Over LTE) หรือ Video Call คุยแบบเห็นหน้าผ่านระบบ LTE ที่ชัดแจ๋วเหมือนนั่งคุยอยู่ข้างๆ แต่สิ่งที่เราได้รับคือสัญญานที่ไม่เสถียร และข้อความบนหน้าจอที่ค้างว่า"กำลังเชื่อมต่อ" บ่อยครั้งที่การเปลี่ยนระบบการเชื่อมต่อจาก Wi-Fi เป็น 4G หรือแม้กระทั่ง 4G เป็น 3G นำไปสู่การเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร และสร้างความหงุดหงิดให้กับผู้ใช้งาน

ในฐานะผู้ใช้บริการ เราเฝ้ารอวันที่จะได้ใช้ชีวิตยุคดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งรอนานเท่าไหร่ เราก็ยิ่งร้อนใจเท่านั้น โดยมีความหวังว่าผู้ให้บริการทางด้านโทรคมนาคมจะพัฒนาเครือข่าย, เทคโนโลยี และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ในปีนี้ หลายๆปัจจัยในชีวิตของเราจะ "ฉลาด" หรือ "สมาร์ท" ยิ่งขึ้น เนื่องจากองค์กรจะหันมาพึ่งเทคโนโลยีและระบบดิจิตอล โดยการนำเทคโนโลยีและโมบิลิตี้รูปแบบใหม่เข้ามาใช้งาน และเชื่อมต่อระบบต่างๆเข้าด้วยกัน รวมไปถึงการวิเคราะห์ระดับสูงที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของเรา วัตถุดิจิตอล, วัตถุเสมือนจริง และระบบดิจิตอลต่างๆจะมาแทนที่และลดจำนวนของวัตถุที่จับต้องได้ เมื่อองค์กรต่างๆค้นพบประสิทธิภาพของระบบคลาวด์

การจอดรถเป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่าสถานที่ต่างๆในเมืองนั้น "สมาร์ท" ขึ้น หากมองในแง่เทคโนโลยีแล้ว เราสามารถโทรไปที่ลาดจอดรถ, จองที่จอด และชำระเงิน ก่อนที่เราจะออกจากบ้านเสียอีก แต่เราเลือกที่จะใช้เวลาหลายพันชั่วโมงต่อปีในการวนหาที่จอดรถ

แล้วผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมมีบทบาทอย่างไรในเรื่องนี้? ปัจจุบัน ผู้คนใช้โทรศัพท์ในการโทรแบบทั่วไปน้อยลง พวกเขาหันไปพึ่งบริการของ over-the-top (OTT) เช่น LINE, Facebook, Whatsapp, Viber, Skype หรือ WeChat ผู้ให้บริการจะยังคงที่จะพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายสำหรับการโทร และนำเสนอประสบการณ์การใช้ดาต้าที่มีคุณภาพดีกว่า, ใช้แบตเตอรี่น้อย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (เช่น ระบบ RCS ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถส่งไฟล์หรือรูปภาพในขณะที่คุยโทรศัพท์ได้)

นอกจากนี้ ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม ยังคงพยายามเอาชนะใจลูกค้าด้วยแพ็กเกจพิเศษที่รวบรวมบริการหลากหลายอย่างไว้ด้วยกัน เช่น โทรศัพท์บ้าน,โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตบ้าน รวมไปถึงบริการเสริมที่มาจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมจะให้ความสำคัญกับบริการทางเครือข่ายรูปแบบใหม่ๆจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น NFV และ SDN อีกปัจจัยหนึ่งที่จะได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการคือบริการด้านไอทีและการป้องกันภัยคุกคามทางไอทีสำหรับ SME และองค์กร รวมไปถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อพัฒนาบริการ

มากไปกว่านั้น ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมจะนำเสนอบริการชำระค่าบริการผ่านมือถือต่อไปในปี 2559 นี้ และผลักดันให้องค์กรต่างๆปรับการดำเนินงานให้เป็นระบบดิจิตอลเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น โดเสนอแพ็กเกจบริการสำหรับการสื่อสาร, ระบบคลาวด์ และการป้องกันภัยคุกคามทางไอที

ท้ายที่สุด เราจะยังคงเห็นการแข่งขันกันระหว่างผู้เล่นหน้าเก่าและผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะแข่งกันนำเสนอบริการอย่างดุเดือด โดยผู้เล่นที่นำเสนอบริการที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด เช่น บริการทางการเงิน จะได้เปรียบและมีโอกาสเป็นผู้นำในตลาด

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit