ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวราคา (ค่าเช่า) พระเครื่อง เช่น
1. "ชี้ตำหนิจุด พระนางพญา พิษณุโลก พิมพ์เข่าโค้ง องค์ 25 ล้านบาท" {1} ราคาสูงขนาดนี้เลยหรือ
2. 10พระเครื่องดัง {2} โดยแต่ละองค์มีราคาสูงลิ่ว
3. "พระสมเด็จองค์ครูเอื้อมูลค่าเฉียด 100 ล้าน. . . ส่วนองค์เจ้แจ๋วสูงกว่า ๑ เท่า สวยที่สุดในประเทศไทย ราคา ๒๐๐ ล้านบาท" {3}
กรณีนี้เป็นการตีราคากัน แต่สินค้ามีเพียงไม่กี่ชิ้น อาจไม่ถือเป็นราคาตลาดที่เชื่อถือได้ และการซื้อขาย (เช่า) วัตถุมงคลก็อาจเป็นการฟอกเงินทางหนึ่งก็ได้ ราคาจึงไม่ได้สะท้อนมูลค่า แต่สำหรับที่มีการซื้อขายกันอย่างกว้างขวาง บางครั้งก็ไม่ใช่ราคาตลาด เช่น จตุคามรามเทพ {4} ซึ่งมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะการเก็งกำไร (ฟีเวอร์) อย่างชัดเจน มีคนจำนวนหนึ่ง (ไม่ใช่คนส่วนใหญ่) แห่แหนกันซื้อเก็งกำไร แต่สุดท้ายราคาก็ตกต่ำลง จนถึงขั้นทิ้งร่วมแสนองค์ริมถนน {5}
การซื้อขายจะมีราคาตลาด (Market Prices) ราคานั้นก็จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง (Market Value) ของทรัพย์สินที่เราประเมินซึ่งอาจแตกต่างไปบ้างตามลักษณะเฉพาะของทรัพย์สิน โดยถือตามพฤติกรรมตลาด (Market Behavior หรือ Market Practices) ในท้องตลาด เป็นผู้กำหนดราคาตลาด อย่างไรก็ตามในตลาดที่ไม่สมบูรณ์ (Imperfect Market) กลไกตลาดอาจถูกบิดเบือนไปได้ในบางขณะสั้น ๆ แต่ไมใช่ตลอดไป {6}
อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีตลาด ก็จะมีราคา เพราะตลาดเป็นแหล่งสังเคราะห์อุปสงค์และอุปทานให้ออกมาเป็นราคาตลาด มีตัวอย่างเช่นหินดวงจันทร์มีราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่มีราคาเช่นนี้ก็เพราะมีพฤติกรรมตลาดที่แน่ชัดที่ผ่านการซื้อขายมาหลายต่อหลายครั้งในตลาด จนสามารถทราบได้นั่นเอง แต่กรณี "ลูกเทพ" คงไม่มีราคาที่แน่ชัดเพราะเป็นของบุคคลแต่ละคน มีต้นทุนในการซื้อหามา แต่ไม่มีมูลค่าในการแลกเปลี่ยน เราจึงเห็นปรากฏการณ์การทิ้งตุ๊กตา "ลูกเทพ" ไว้ตามวัด {7} เพราะคงไม่มีใครนำไปใช้ต่อได้สังคมไทยเราควรส่งเสริมสังคมอุดมปัญญา ไม่ใช่ความงมงายกลายเป็นการค้า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พฺรหฺมรังสี สอนว่า "บุญเราไม่เคยสร้าง...ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า ... ลูกเอ๋ย ก่อนที่จะเข้าไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน . . . " {8} แต่คนส่วนมากคงไม่นำพาคำสอน มักรู้จักแต่พระสมเด็จราคาองค์ละหลายๆ ล้าน อิทธิปาฏิหาริย์ ทั้งที่ท่านสมถะเป็นอย่างยิ่ง พุทธพาณิชย์บิดเบือนภาพพระดีๆ ให้เป็นอื่น โดยเราแทบไม่ได้เรียนรู้อะไรในทางธรรมะเลย ศาสนาไม่ได้รับการส่งเสริมให้ถูกทาง
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ก็สอนว่า "ศาสนาทางมิจฉาทิษฐิ ก็นับวันจะแสดงปฏิหาริย์ คนที่โง่เขลาก็จะถูกจูงไปอย่างโคและกระบือ ผู้ที่ฉลาดก็เหลือน้อย" {9} ส่วนหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ก็ถามคนที่พากันไปกราบไหว้ท่านว่าพากันลำบากลำบน มากันทำไม? คณะญาติโยมก็ตอบว่าต้องการมากราบบารมีของหลวงปู่ ท่านจึงตอบว่า "บารมี ต้องสร้างเอาเหมือนอยากให้มะม่วงของตนมีผลดก ก็ต้องหมั่น บำรุงรักษาเอา ไม่ใช่แห่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น ต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วง ของตนเอง การสร้างบารมีก็เช่นกัน ต้องสร้างต้องทำเอาเอง" {10}
หลวงปู่ทวด ซึ่งเกิดเมื่อ 434 ปีที่แล้ว ท่านก็เป็นที่รับรู้ของสังคมว่าเป็นผู้แสดงปาฏิหาริย์ "เหยียบน้ำทะเลจืด" แต่ไม่ค่อยมีผู้สนใจคำสอนของท่าน เช่น "ผู้ใหญ่ไม่ใช่อยู่ที่เกิดก่อน ผู้ดีไม่ใช่อยู่ที่เรียนสูง มารยาทจรรยาของการเป็นผู้ใหญ่ ก็คือต้องสุขุมรอบคอบและไม่ยึดติดเสียงเป็นหลัก คือต้องไม่หวั่นไหวกับคำนินทาและสรรเสริญ" {11} แต่ปัจจุบันเรากลับยึดติดกับตัวตนของหลวงปู่ทวดและอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า
แต่ในระยะหลังมา ชาวพุทธกลับมีพระพุทธรูปไว้กราบไหว้จำนวนมาก และได้รับการอ้างอิงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง ๆ ที่เราก็เคยได้ยินคำว่า 'พระอิฐ พระปูน' มานานแล้ว บางท่านอาจแย้งว่า คนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจต้องมีพระพุทธรูปหรือพระเครื่องเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เพื่อนำพาไปสู่ธรรมะในที่สุด แต่ข้อนี้ก็คงต้องมาประเมินกันให้ชัดว่า การนี้นำไปสู่ธรรมะหรือนำไปสู่พุทธพาณิชย์เป็นสำคัญ และยิ่งทำให้ชาวพุทธยึดติดในการนิยมวัตถุหรือไม่
ดังนั้นความงมงายส่วนตัวตามกระแสแบบลมเพลมพัดเช่นกรณี "ลูกเทพ" จึงไม่อาจมีมูลค่าใด ๆ ได้ การหลงงามงายกับอวิชชาแบบนี้จึงมีแต่ทำให้เสียทรัพย์ หลงทางมากกว่าจะมีทรัพย์หรือมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองดังหวัง ลองฟังธรรมะของพุทธทาสส่งท้ายนี้:"กรรมดี ดีกว่ามงคล สืบสร้าง กุศล ดีกว่า นั่งเคล้า ของขลัง
พระเครื่อง ตะกรุด อุทกัง ปลุกเสก แสนฉมัง คาดมั่ง แขวนมั่ง รังรุง
ขี้ขลาด หวาดกลัว หัวยุ่ง กิเลส เต็มพุง มงคล อะไร ได้คุ้ม
อันธพาล ซื้อหา มาคุม เป็นเรื่อง อุทลุม นอนตาย ก่ายเครื่อง รางกอง
ธรรมะ ต่างหาก เป็นของ เป็นเครื่อง คุ้มครอง เพราะว่า เป็นพระ องค์จริง
มีธรรม ฤามี ใครยิง ไร้ธรรม ผีสิง ไม่ยิง ก็ตาย เกินตาย
เหตุนั้น เราท่าน หญิงชาย เร่งขวน เร่งขวาย หาธรรม มาเป็น มงคล
กระทั่ง บรรลุ มรรคผล หมดตัว หมดตน พ้นจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย
บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใจกาย อุปัทวะ ทั้งหลาย ไม่พ้อง ไม่พาน สถานใด
เหนือโลก เหนือกรรม อำไพ กิเลสา- สวะไหน ไม่อาจ ย่ำยี บีฑา ฯ {12}
อ้างอิง
{1} ชี้ตำหนิจุด พระนางพญา พิษณุโลก พิมพ์เข่าโค้ง องค์ 25 ล้านบาท http://wunchai05.blogspot.com/2013/12/25.html
{2} 10พระเครื่องดัง http://goo.gl/7UoYec
{3} พระสมเด็จองค์ครูเอื้อมูลค่าเฉียด๑๐๐ล้าน! http://goo.gl/C85GZA
{4} "จตุคาม-รามเทพ" หายไปไหน ? ตำนานพระเครื่อง 2 หมื่นล้านรอจังหวะตื่น www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1322186181
{5} ประณามคนทิ้ง "จตุคาม" ร่วมแสนองค์ริมถนนเมืองคอนหมดมนต์ขลัง www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9510000031596
{6} เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง www.thaiappraisal.org/thai/market/market_view.php?strquery=market369.htm
{7} เอาไปทิ้ง ตุ๊กตาลูกเทพ เกลื่อนวัด หมอแมคแฉ กระแสแอนตี้ เลี้ยงโอเวอร์! www.thairath.co.th/content/571462
{8} คำสอนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พฺรหฺมรังสี http://goo.gl/zmcHnC
{9} หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต http://luangpumun.org/pumun.html
{10} หลวงปู่แหวน บารมีต้องสร้างเอง http://goo.gl/CW8Jz0
{11} ธรรมะของหลวงปู่ทวด www.oknation.net/blog/print.php?id=265677
{12} โปรดดูรายละเอียดได้ที่ www.huexonline.com/knowledge_detail.php?knowledge_id=52
อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 48/2559: วันพฤหัสบดีที่ 04 กุมภาพันธ์ 2559
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย ([email protected]) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit