นายพันธุ์เทพ ลาภพิพิธมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอยัล อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ CUT & CARVE กล่าวว่า"ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ที่เรามาร่วมจัดแสดงสินค้าในงานสถาปนิก เพื่อนำเสนอเทคนิคในการตกแต่งอาคารและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทให้แก่กลุ่มลูกค้า ได้แก่ สถาปนิก นักออกแบบ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งคนทั่วไปที่สนใจงานออกแบบ โดยไฮไลท์ครั้งนี้คือ นวัตกรรมและไอเดียในการตกแต่งหน้าอาคาร (Façade) ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่และนำมาเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ ด้วยรูปแบบการทำผนังห่อหุ้มอาคารแบบ 3 มิติ (3D Façade System) เน้นการขึ้นรูปทรงโลหะ ดีไซน์ทันสมัย สะดุดตาด้วยลวดลายหลากหลาย เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์แก่อาคาร ทั้งรูปแบบ 3D Element (การออกแบบ Fin ของอาคารโดยเน้นการเล่นระดับเพื่อให้เกิดมิติและแสงเงา), 3D Parametric (การขึ้นรูปโลหะแบบ 3 มิติ และขึ้นรูปแบบอิสระตามแรงบันดาลใจ) Image Perforate (การสร้างลวดลายบนผิวของวัสดุโดยการเจาะรูขนาดแตกต่างกัน) และ Grilled Façade System (สร้างลวดลายโดยการฉลุลาย รูปแบบเฉพาะตัว) โดย 3D Façade By CUT & CARVE ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้ได้กับหลายวัสดุตามความต้องการของลูกค้า คำนึงถึงการใช้งานกับสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว โฮมออฟฟิศ ตลอดจนอาคารแนวสูง เช่น อพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดมิเนียมที่มีความสูงไม่เกิน 8 ชั้น รวมถึงการรีโนเวทตึกเก่าให้เป็นโฉมใหม่ที่สวยงามและแตกต่างด้วยดีไซน์ทันสมัยได้ ภายใน 7 วัน!! เพื่อตอบโจทย์ผู้ต้องการงานดีไซน์ที่หลากหลายและสร้างอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว"
นอกจากนี้ภายในงาน ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ EQUITONE Façade Panels (อีคิวโทน ฟาซาด พาเนลส์) ไฟเบอร์ซีเมนต์ชนิดความหนาแน่นสูง ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยพื้นผิวเรียบด้านและ finishing สวยงาม คงทนแข็งแรง ไม่ติดไฟ อายุใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี นำมาใช้ตกแต่งกับอาคารได้ทุกรูปทรง ได้รับความไว้วางใจจากสถาปนิกชั้นนำระดับโลกในการสร้างสรรค์อาคารที่มีความโดดเด่นมากมาย และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Kingspan Architectural Wall Panels (คิงสแปน อาร์คิเทคเชอรัล วอลล์ พาเนลส์) เป็นการรวมเอาผนัง ฉนวน และวัสดุตกแต่งผนังเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีคุณสมบัติป้องกันการติดไฟ ยึดติดแข็งแรงคงทน ติดตั้งง่าย รวดเร็ว ประหยัดพลังงานจากเดิมถึง 30% ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม คุ้มค่าในระยะยาว การันตีการใช้งานถึง 25 ปี ซึ่งทั้ง EQUITONE และ Kingspan Architectural Wall Panels นั้น นอกจาก CUT & CARVE จะนำมาใช้เป็นวัสดุในการตกแต่ง façade อาคารแล้ว ยังเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดจำหน่ายในเมืองไทยอีกด้วย
ทั้งหมดนี้มาร่วมผนึกกำลัง ทำให้บูธ CUT & CARVE กลายเป็นแกลอรี่ที่รวบรวมเทคนิคและโชว์เคสของงานตกแต่ง Facade อาคารไว้ ในหนึ่งเดียว นอกจากนี้ยังสร้างความโดดเด่นภายในงานสถาปนิก'59 ด้วย "The Thinker" สถาปัตยกรรมแบบฟิน 3 มิติ (3D Element Sculpture) รูปคนนั่งคิด สูงตระหง่านถึง 5 เมตร มีนกบินรายล้อม เปรียบเสมือนความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีวันจบ และมีความอิสระทางความคิด กลายเป็นซิกเนเจอร์ของบูธ เรียกความสนใจแก่ผู้ชมงาน
นายพันธุ์เทพ ยังกล่าวด้วยว่า "จุดเด่นของ CUT & CARVE ที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง คือ การเป็นมากกว่าโรงงานตัดฉลุลาย เพราะนำเสนอเทคนิค ตัด เจาะ ทำลวดลายหลายรูปแบบซึ่งสามารถตอบโจทย์งานดีไซน์ที่หลากหลายของลูกค้า มีทีม RD ที่พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเน้นเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้งานมีคุณภาพ เช่นเดียวกับวัสดุที่ต้องมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานงานก่อสร้างและเป็นมิตรกับส่งแวดล้อม นอกจากนี้ เราไม่ได้เน้นการขายสินค้าแต่อย่างเดียว แต่ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและคิดหาโซลูชั่นในงานออกแบบให้ออกมาเป็นผลงานได้จริง โดยคำนึงถึงดีไซน์และงบประมาณควบคู่กัน ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนให้ธุรกิจของบริษัทประสบความสำเร็จและโตขึ้นเรื่อยๆ คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า20% และมียอดจากการจัดจำหน่าย มากกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายในปัจจุบันจะเน้นกลุ่ม Community กลุ่มโรงแรม และกลุ่มผู้ที่ต้องรีโนเวทอาคารโดยเฉพาะตึกแถวเก่า ตั้งเป้าจะขยายกลุ่มเป้าหมายขึ้น 20% ทุกปี และตลาดที่กำลังทำ คือ Virgin Market โดยสร้างความต้องการใหม่ และเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่เดิมในตลาด พร้อมนำเสนอทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ที่ต้องมาควบคู่กันโดย Façade Technology ของ CUT & CARVE จะมีองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ วัสดุ การออกแบบ และงบประมาณ ของลูกค้า เพื่อสะท้อนแนวคิดที่ว่า "แตกต่าง ทำได้ สร้างจริง"
สำหรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานในปี 2559 เราจะเน้นการทำ 3D Façade สำหรับอาคารที่ต้องการรีโนเวทหรือตกแต่งเพิ่มเติม เนื่องจากเรามองเห็นช่องทางในการขยายโอกาสธุรกิจ เพราะปัจจุบันที่ดินในเมืองหายาก ตึกแถวเก่ามีจำนวนมากและส่วนใหญ่อยู่ในย่านที่ดินแพง การสร้างอาคารใหม่บนพื้นที่ดินที่ยังว่างก็ทำได้ยากและใช้งบประมาณมาก ดังนั้นการรีโนเวทตึกเก่าจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะติดตั้งง่าย รวดเร็ว และใช้งบประมาณไม่สูง เราคิดว่าถ้ามีโอกาสได้รีโนเวทตึกเก่า เช่น ตึกแถวที่ดูโทรมๆ ก็อาจจะช่วยให้เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ดูทันสมัย สวยงาม มีสีสันด้วยรูปร่างและลวดลายของอาคาร ดังเช่นมหานครอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงเน้นโครงการรีโนเวทเนรมิตตึกแถวภายใน 7 วัน!! และด้วยเหตุที่เราศึกษาเทรนด์จากเมืองนอก และนำเทรนด์เมืองนอกมาประยุกต์ให้เข้ากับงานดีไซน์สิ่งก่อสร้างบ้านและอาคารของไทยอย่างเหมาะสม การตกแต่ง Façade นอกจากจะทำให้สวยงามแล้วยังช่วยระบายอากาศ จึงเหมาะกับเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองร้อนส่วนการขยายการดำเนินงานอื่นๆ
กลางปีนี้เราจะเปิดโชว์รูมที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากโรงงานปัจจุบันซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ และมี Strategic partner ที่จังหวัดเชียงใหม่ ด้านการลงทุนเราจะเน้นลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อรองรับงาน Façade Solutions นอกจากนี้จะขยายพันธมิตรทางธุรกิจกับแบรนด์ต่างประเทศ (Global Brands) เช่นเดียวกับ Kingspan และ EQUITONE เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและสรรหาวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ โดยเน้นนวัตกรรมของวัสดุสมัยใหม่ที่เป็นเทรนด์ของโลก ซึ่งนอกจากต้องมีคุณภาพสูงแล้ว ยังควรเป็นมิตรกับส่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ตามหลักการของ Green Building Material รวมทั้งวัสดุทดแทนธรรมชาติ ซึ่งเป็นนวัตกรรมของงานก่อสร้างในอนาคตอีกด้วย" นายพันธุ์เทพกล่าว
พบกับ CUT & CARVE ที่บูธหมายเลข S208 โซน Sanitaryware, Kitchen, Tile & Stone, Pool & Spa ในงานสถาปนิก'59 ตั้งแต่วันนี้ถึง 1 พฤษภาคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร. 0 2452 0733 - 4 หรือ www.cutandcarve.com และ www.facebook.com/cutandcarveexclusive
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit