นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ ทีเส็บ เปิดเผยว่า "ปีนี้ ทีเส็บ ยังส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยผ่านกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ (Digital MICE) โดยการใช้ช่องทางออนไลน์สนับสนุนแผนการตลาดหลักขององค์กร บูรณาการกิจกรรมการตลาดแบบปกติและแบบดิจิตอลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอดรับกับนโยบายส่งเสริม Digital Economy ของรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์ให้เติบโตและเป็นกลไกสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจระดับมหาภาค
แผนการตลาดออนไลน์ในปี พ.ศ. 2559 ทีเส็บดำเนินการสานต่อใน 4 แผนงานหลัก ได้แก่ แผนงานพัฒนาเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลการจัดงานไมซ์ครบวงจร โดยเว็บไซต์ท่าของทีเส็บ www.businesseventsthailand.com เน้นเนื้อหาทันสมัย มีมาตรฐานด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมเพื่อตอบโจทย์การบริการถึง 8 ภาษา และพัฒนาต่อยอดเว็บไซต์ทีเส็บในรูปแบบ โมบายแอพพลิเคชั่น Biz Thailand ให้กลุ่มเป้าหมายทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น แผนงานการจัดทำสื่อการตลาดและการขายแบบดิจิตอล ที่สนับสนุนการตลาดออนไลน์ของอุตสาหกรรมไมซ์อย่างบูรณาการ ผ่าน Blog, Digital Brochure, วิดีทัศน์, สื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Info graphic และ Digital Sale Kit
แผนงานกิจกรรมการตลาดประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ เน้นสร้างภาพลักษณ์และการรับรู้ศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ MICE Destination นำเสนอจุดเด่นและแง่มุมใหม่ๆ ของเมืองไมซ์ซิตี้ทั้ง 5 แห่ง รวมถึงเมืองอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะดำเนินกิจกรรมการตลาดดังกล่าวแบบบูรณาการทั้งแบบดั้งเดิมและแบบดิจิตอลเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังดำเนินแคมเปญการตลาดทั้งต่างประเทศ และในประเทศควบคู่กัน โดยแคมเปญตลาดต่างประเทศสานต่อโครงการ Spice Up Your Business Agenda 2016 ร่วมกับ 5 พันธมิตรจากหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจากประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา ด้วยปริมาณการดาวน์โหลด e-coupon Spice up your business agenda ประมาณ 25,000 ครั้ง และการรับคูปองพิเศษสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (Privilege Coupon Booklet) กว่า 35,000 ชุด ด้านแคมเปญตลาดในประเทศ ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์ออนไลน์เพื่อสร้างกระแสและส่งเสริมการจัดประชุม สัมมนา ในพื้นที่ชุมชน เพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์สานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล, แคมเปญ Digital MICE Award 2016 "Young VDO Contest" และแคมเปญ MICE Trip Challenge และแผนการจัดทำข้อมูลตลาดและองค์ความรู้อุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านนิตยสารดิจิตอล MICE Move ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ ตลอดจนกลุ่มนักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป"
ด้าน นางสริตา จินตกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ทีเส็บ กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น Biz Thailand ได้ดำเนินการจัดทำในรูปแบบ 2 ภาษา คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รองรับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายผ่านสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนจำนวนมากกว่าคอมพิวเตอร์และแทบเลต โดยแอพพลิเคชั่นนี้ได้รวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เที่ยวบินระหว่างประเทศและในประเทศ สถานที่จัดประชุมทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ ไว้อย่างครบครัน อีกทั้งยังมีการอัพเดทแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นและกิจกรรมพิเศษแบบ Real time โดยอ้างอิงกับตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ พร้อมเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกในการแชร์ข้อมูลอีกด้วย สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้จากทั้ง App Store และ Google Play
สำหรับ แคมเปญ Spice Up Your Business Agenda 2016 ปีที่ 3 นี้ ทีเส็บ ยังคงผนึกกำลังร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ที่เป็นการเชื่อมต่อกับสื่อสังคมออนไลน์ในช่องทางต่างๆ ภายใต้แนวคิด "Social Connectivity" เพื่อขยายการสื่อสารแคมเปญในวงกว้างมากยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอสิทธิพิเศษของสินค้าและบริการที่น่าสนใจ อาทิ ส่วนลดสำหรับที่พักโรงแรม 10% ส่วนลดสำหรับบริการรถเช่ารับ-ส่งสนามบิน 50% คูปองส่วนลดสำหรับการช็อปปิ้ง 500 บาท ส่วนลดสำหรับร้านอาหาร 25% และส่วนลดค่ากรีนฟี สนามกอล์ฟ 50% เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมสิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.SpiceupYourBusinessAgenda.com
นอกจากนี้ แคมเปญ Spice Up Your Business Agenda 2016 ในปีนี้ ทีเส็บ ได้มีการเพิ่มสิทธิพิเศษโดยเฉพาะสำหรับกลุ่มประเทศเป้าหมายหลักอย่าง ตลาดจีน โดยเล็งเห็นว่าสถิติในปี 2557 และ 2558 พบว่านักเดินทางกลุ่มไมซ์จากประเทศจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงเป็นอันดับแรกและเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 20.16% ของตลาดเอเชีย อีกทั้งยังขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าตลาด CLMV ที่เดินทางมาประชุมหรือมาร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย รวมถึงการวางแผนขยายไปยังกลุ่มผู้เข้าร่วมงานประชุมและร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติภายในประเทศ (Domestic MICE) ตลอดจนกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต VISA Commercial Card และ VISA SME Card ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทและองค์กรของสมาคมหอการค้าไทยด้วย
"การส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยผ่านการส่งเสริมตลาดออนไลน์ของ ทีเส็บ ในปี 2559 คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการรับรู้ (Visibility) ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ของกลุ่มผู้ใช้ข้อมูลจากต่างประเทศได้จำนวน 4,500,000 วิว เพิ่มขึ้น 50% จากเป้าหมายปี 2558 มีจำนวนอยู่ที่ 3,000,000 วิว ส่วนกลุ่มผู้ใช้ข้อมูลจากในประเทศคาดการณ์ว่าจะมีจำนวน 1,400,000 วิว เพิ่มขึ้น 133% จากเป้าหมายปี 2558 มีจำนวนอยู่ที่ 600,000 วิว ด้านปริมาณผู้มาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ ทีเส็บจากต่างประเทศคาดการณ์ว่าจะมีจำนวน 253,000 เพจวิว เพิ่มขึ้น 15% จากเป้าหมายปี 2558 มีจำนวนอยู่ที่ 220,000 เพจวิว โดยการรับรู้ดังกล่าวนี้จะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทยไปสู่เป้าหมายปีนี้ด้วยจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,060,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท" นายนพรัตน์ กล่าวโดยสรุป