“โตโต้” เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ เปิดเกมรุกบุกตลาดสุขภัณฑ์ไทยระดับไฮเอนด์

04 May 2016
เปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับสุขภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยเหนือระดับ Neorest with Actilight สุขภัณฑ์ฆ่าเชื้อและสลายสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง ที่สุดของเทคโนโลยีการทำความสะอาดอย่างแท้จริง พร้อมด้วย ก๊อกผสมอาบน้ำระบบ SMA ควบคุมอุณหภูมิน้ำได้อย่างแม่นยำ โชว์ฟังก์ชั่นการใช้งานสุดอัจฉริยะ ผสานดีไซน์สุดล้ำ ตอบโจทย์ลูกค้าไฮเอนด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ เตรียมขึ้นแท่นแบรนด์ TOP 3 ครองใจคนไทยภายในปี 2562
“โตโต้” เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ เปิดเกมรุกบุกตลาดสุขภัณฑ์ไทยระดับไฮเอนด์

นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ (Mr.Hiroyuki Suzuki) ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ที่มีความล้ำสมัยทั้งด้านการออกแบบรูปลักษณ์และด้านเทคโนโลยีระดับโลกภายใต้แบรนด์ "โตโต้" เปิดเผยว่า ล่าสุด "โตโต้" ได้นำสินค้านวัตกรรมใหม่สุดล้ำเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ได้แก่ Neorest with Actilight สุขภัณฑ์ ฆ่าเชื้อและสลายสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง ที่สุดของเทคโนโลยีการทำความสะอาดอย่างแท้จริง พร้อมด้วย

ก๊อกผสมสำหรับอาบน้ำระบบควบคุมอุณหภูมิน้ำได้คงที่ Shape Memory Alloy (SMA) ซึ่ง "โตโต้" พัฒนาขึ้นเป็นรายแรกของโลกและถือเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจาก "โตโต้" โดยทั้ง 2 นวัตกรรมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกสบายและสุขอนามัยเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง รวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และมีความต้องการสินค้านวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าแค่ความสวยงาม

สำหรับ ฝารองนั่ง Washlet รุ่น Neorest XHII ซึ่งใช้เทคโนโลยี Actilight ถือเป็นสุดยอดของการก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่งในการทำความสะอาดตัวเองที่ถือเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ "โตโต้" ที่ได้ใช้ระยะเวลาคิดค้นและพัฒนามากว่า 10 ปี ด้วยความโดดเด่นของ 2 คุณลักษณะ คือ การเคลือบสารพิเศษบนพื้นผิวภายในโถสุขภัณฑ์ ทั้งไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO2) ที่มีความสามารถในการทำปฏิกริยากับแสงอัลตร้าไวโอเลตเพื่อรักษาความสะอาดของโถสุขภัณฑ์ และซีโครเนี่ยมออกไซด์ (ZrO2) ที่ช่วยให้พื้นผิวสุขภัณฑ์เนียนเรียบและสะอาดใหม่หมดจดอยู่เสมอ พร้อมด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลตที่ติดตั้งอยู่ใต้ฝาปิดสุขภัณฑ์ โดยทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้จะทำงานร่วมกับออกซิเจนและน้ำที่อยู่ในอากาศเพื่อสลายสิ่งปฏิกูล เชื้อแบคทีเรีย และคราบสกปรกต่างๆ ด้วยกระบวนการสังเคราะห์แสงได้อย่างหมดจด นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี ewater+ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ด้วยน้ำที่ผ่านกระบวนการ อิเล็กโตรไลซ์ที่จะถูกปล่อยออกมาเพื่อทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน ซึ่งจะช่วยขจัดแบคทีเรียบนพื้นผิวของโถสุขภัณฑ์ได้ถึง 99.99% ที่สำคัญคือ ewater+ ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับไปหมุนเวียนใช้ใหม่ได้อีกด้วย ทั้งนี้ จากการทดสอบประสิทธิภาพของ 2 เทคโนโลยีทั้ง Actilight และ ewater+ ในระยะเวลา 10 เดือนจากผู้ใช้จำนวน 5,200 ครั้ง พบว่าสุขภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี Actilight ยังดูสะอาดมากโดยไม่จำเป็นต้องล้างโถสุขภัณฑ์

ตามมาด้วยอีกหนึ่งนวัตกรรมจาก "โตโต้" ได้แก่ ก๊อกผสมสำหรับอาบน้ำ ที่ควบคุมอุณหภูมิน้ำด้วยระบบ Shape Memory Alloy (SMA) ที่มีประสิทธิภาพเหนือชั้นในการควบคุมอุณหภูมิน้ำร้อนให้คงที่ ลดความผันผวนของอุณหภูมิน้ำในขณะที่ใช้ โดยสามารถลดปริมาณน้ำที่เสียไปก่อนที่จะได้อุณหภูมิที่ต้องการ นับได้ว่า "โตโต้" เป็นรายแรกของโลกที่เป็นผู้พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิระบบ SMA ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมการประปาเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมก๊อกน้ำอีกด้วย และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ "โตโต้" มีส่วนแบ่งการตลาดก๊อกน้ำในประเทศญี่ปุ่นสูงสุดเช่นกัน สินค้าของ "โตโต้" ที่ใช้เทคโนโลยี SMA ควบคุมอุณหภูมิน้ำที่วางจำหน่าย

ในประเทศไทย ได้แก่ ชุดฝักบัวยืนอาบดีไซน์ทันสมัยที่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน รุ่น TX454SESMR และ TMC95ECR ส่วนก๊อกผสมสำหรับยืนอาบที่สามารถเลือกชุดฝักบัวได้ รุ่น TMGG44EX, TMGG40EX, TMGG40QEX และ TX450SEV1 และชุดฝักบัวรุ่น TTSH301C และ TTSH301M

สำหรับผู้สนใจสามารถสัมผัสและทดสอบกับนวัตกรรมสุดล้ำของสุขภัณฑ์รุ่นล่าสุด จาก "โตโต้" ได้แล้ววันนี้ที่ โชว์รูมโตโต้ สุขุมวิท โทรศัพท์ 02 650 9925 และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.toto.co.th

พร้อมกันนี้ นายฮิโรยูกิ ได้เปิดเผยต่อไปว่า ตั้งแต่ปี 2558-2562 "โตโต้" ได้วางนโยบายเชิงรุกสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่าประมาณ 20% จากปี 2558 ขณะเดียวกัน "โตโต้" ตั้งเป้าหมายติด 1 ใน 3 แบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคคนไทยภายในปี 2562 ด้วย ซึ่งในปี 2559 นี้ "โตโต้" มีแผนจะรุกตลาดไทยอย่างจริงจัง โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นแรงซื้อจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อาทิ การจัดงานอีเวนท์ โปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับหน้าร้าน ปรับปรุงโชว์รูมใหม่ ณ จุดขาย การขยายผู้แทนจำหน่ายเพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อได้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มทีมบริการหลังการขาย"การที่โตโต้เป็นผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภัณฑ์ยาวนานกว่า 100 ปี มีส่วนแบ่งทางการตลาดในญี่ปุ่นสูงถึง 70% รวมถึงการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น จีน อเมริกา และยุโรป จนเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก ตอกย้ำถึงคุณภาพและความเป็นผู้นำด้านสุขภัณฑ์รวมถึงนวัตกรรมอย่างแท้จริง ทำให้โตโต้มองเห็นความสำคัญที่จะขยายตลาดในอาเซียนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ตลาดยังสามารถเติบโตได้อีกหลายเท่า ประกอบกับรัฐบาลไทยยังคงให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนของบริษัทข้ามชาติ ทำให้โตโต้สนใจที่จะขยายการลงทุน

ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และจากการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีในอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ของโตโต้จะได้รับการตอบรับจากตลาดไทยตามเป้าหมายที่วางไว้" นายฮิโรยูกิ กล่าวในตอนท้าย

HTML::image( HTML::image( HTML::image(