นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2559 มีจังหวัดได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน 55 จังหวัด รวม 401 อำเภอ 1,135 ตำบล 3,145 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก และพิจิตร ภาคกลาง 14 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี กาญจนบุรี นครนายก ราชบุรี สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม บึงกาฬ อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น อำนาจเจริญ และยโสธร ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ระยอง ชลบุรี และตราด ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ พังงา และสุราษฎร์ธานี บ้านเรือนประชาชนเสียหายรวม 40,709 หลังคาเรือน โรงเรียนได้รับความเสียหาย 14 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง วัด 10 แห่ง สถานที่ราชการ 5 แห่ง ผู้เสียชีวิต 23 ราย โดยมีสาเหตุจากไฟฟ้าช๊อต ฟ้าผ่า เสาไฟฟ้า กำแพง ต้นไม้ และบ้านล้มทับ ผู้บาดเจ็บ 28 ราย ซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ได้กำชับให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยทหารในพื้นที่ดูแลและให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง ซึ่ง ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้จังหวัดสำรวจรูปแบบความต้องการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย โดยจัดทำบัญชีแยกตามประเภทอย่างชัดเจน อาทิ เงินช่วยเหลือ วัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และวางแผนช่วยเหลือให้สอดคล้องกับสภาพความเดือดร้อนและความต้องการของผู้ประสบภัย รวมถึงประสานหน่วยทหารสนธิกำลังกับอาสาสมัครในการซ่อมแซมบ้านเรือนและสิ่งสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ให้ใช้งานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th