นอกจากนี้ ยังได้เร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน ในการแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคถึงเดือน ก.ค. 59 อีกทั้งยังมีมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล รวม 17 โครงการ/มาตรการ รวม 201,578.52 ล้านบาท โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้เร่งดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 8 มาตรการอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญในมาตรการที่ 1 และมาตรการที่ 4 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลือ ทั้งในภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร จึงขอให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตภัยแล้งได้ เพราะมีแผนการบริหารจัดการที่ชัดเจนและครอบคลุม มีการแบ่งมอบความรับผิดชอบและติดตามแก้ปัญหา และปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จ.พิจิตร ได้ให้ความร่วมมือจัดทำโครงการพัฒนาชุมชนตามมาตราการที่ 4 เป็นอย่างดี โดยเสนอโครงการทั้งหมด 189 โครงการ งบประมาณรวม 92.5 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอ ครม. จำนวน 157 โครงการ งบประมาณ 66.3 ล้านบาท มีเกษตรเข้าร่วมโครงการ 15,209 ราย มีรายได้จากการจ้างงาน เฉลี่ยรายละ 2,754 บาท เป็นค่าจ้างรวม 41.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 63.20 ของงบประมาณ ชุมชนมีเงินหมุนเวียนจากค่าวัสดุ 24.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.80 ของงบประมาณ
ต่อมา พลเอก ฉัตรชัย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปรับปรุงและทำความสะอาดสิ่งกีดขวางแหล่งน้ำสาธารณะ ต.เนินปอ อ.สามง่าม ตามมาตรการที่ 4 วงเงิน 3.51 ล้านบาท เป็นการจ้างแรงงาน 1,200 ราย เพื่อทำความสะอาด ขุดลอกสิ่งอุดตัน และกำจัดวัชพืชทั้งในและรอบแหล่งน้ำ จำนวน 36 จุด ซึ่งนอกจากโครงการดังกล่าว ยังมีโครงการปรับปรุงและทำความสะอาดถนนสาธารณะ โครงการเพิ่มศักยภาพการจัดการดินและปุ๋ย โครงการบำรุงรักษาพื้นที่ป่าชุมชนสระยายชี และโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตร อีกด้วย