"ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ ได้สะท้อนไปพอสมควรแล้ว ผนวกกับแรงหนุนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งยังเป็นช่วงประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน จึงเกิดแรงขายทำกำไรบ้าง แต่เราเห็นผลประกอบการของหลายบริษัทส่งสัญญาณที่ดี ทีมจัดการกองทุนจึงเห็นเป็นโอกาสทยอยเข้าซื้อสะสม และเมื่อมองไปข้างหน้า เรายังเชื่อมันต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการเติบโตของอาเซียน จะช่วยหนุนโอกาสทางการค้าการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น" นายพีรพงศ์ กล่าว
กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน หรือ BCAP เน้นลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่เติบโตสูงหรือมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยต้องไม่ทำให้กองทุนฯ ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดที่พิจารณาจ่ายปันผลนั้น นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ ในปี 2539 ได้จ่ายปันผลสะสมรวมแล้วหน่วยละ 15.10 บาท ขณะที่ผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งคิดเป็น 377.32% (เกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 59.91%)
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นเครื่องยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit