นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยสถานการณ์ไฟป่า จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการดับไฟป่าและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งปัจจุบันมีสถานการณ์ไฟป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส รวม 8 จุด ในพื้นที่ 5 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอสุไหงโก – ลก เกิดไฟป่าในตำบลปาเสมัส จำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านซรายอ หมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเสม็ดและพื้นที่สวนยางพาราได้รับความเสียหายประมาณ 800 ไร่ พื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงหรือป่าพรุสิรินธร 800 ไร่ และบ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 8 เป็นพื้นที่ชายขอบป่าพรุได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ เขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำบางนรา แปลงที่ 2 ประมาณ 50 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าไม่ให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังไม่ดับสนิท และยังคงมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน อำเภอสุไหงปาดีเกิดไฟป่า จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลปะลุรู ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 690 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว อำเภอยี่งอ เกิดไฟป่าในตำบลตะปอเยาะ จำนวน 2 จุด สร้างความเสียหายประมาณ 650 ไร่ อำเภอตากใบ เกิดไฟป่า จำนวน 2 จุด แยกเป็น ตำบลบางขุนทอง พื้นที่ป่าพรุสิรินทร (ป่าพรุโต๊ะแดง) ได้รับความเสียหายประมาณ 160 ไร่ และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 30 ไร่ ตำบลพร่อน พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ อำเภอเมืองนราธิวาส เกิดไฟป่า จำนวน 1 จุด ในพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือ ได้รับความเสียหาย 35 ไร่ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม ฉีดน้ำควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ยังคงมีไฟลุกลาม พร้อมนำรถแบ็คโฮ รถตักหน้าขุดหลัง และรถแทร็กเตอร์จัดทำแนวกันไฟควบคุมเพลิง ให้อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเปิดเส้นทางสำรองและปรับพื้นที่ให้โล่งเตียน เพื่อให้รถบรรทุกน้ำสามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟป่า รวมถึงดำเนินการขุดพื้นที่เป็นจุดๆ แบบขนมครก เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟ นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน รวมถึงประสานเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นโปรยน้ำดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th