ยูพีเอสจับมือซิปไลน์และ GAVI ใช้โดรนบังคับส่งยา เวชภัณฑ์ วัคซีนในกรณีฉุกเฉินที่รวันดา เพื่อเป็นต้นแบบนำไปใช้ประเทศอื่น ๆ

11 May 2016
มูลนิธิยูพีเอสประกาศความร่วมมือกับซิปไลน์ บริษัทผลิตหุ่นยนต์ในแคลิฟอร์เนีย และองค์กรพันธมิตรโลกเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค หรือ GAVI เพื่อศึกษาแนวทางการใช้โดรนบังคับเพื่อจัดส่งยา เลือด และวัคซีนเพื่อใช้รักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
ยูพีเอสจับมือซิปไลน์และ GAVI ใช้โดรนบังคับส่งยา เวชภัณฑ์ วัคซีนในกรณีฉุกเฉินที่รวันดา เพื่อเป็นต้นแบบนำไปใช้ประเทศอื่น ๆ

บ่อยครั้งที่การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปถึงที่หมายไม่ทันต่อความต้องการใช้ในยามฉุกเฉิน การร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนครั้งนี้เป็นการผสานความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ระดับโลกในการขนส่งแบบควบคุมความเย็นและผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพของยูพีเอสกับเครือข่ายการขนส่งโดยใช้โดรนระดับชาติของซิปไลน์ และประสบการณ์ของ GAVI ในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อการช่วยชีวิตและรักษาสุขภาพประชาชนในพื้นที่ห่างไกลต่าง ๆ ทั่วโลก

โดยมูลนิธิยูพีเอสได้บริจาคเงิน 800,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯเพื่อสนับสนุนการริเริ่มโครงการดังกล่าวในประเทศรวันดา

เอดูอาร์โด มาร์ติเนซ ประธานมูลนิธิยูพีเอส และ Chief Diversity and Inclusion Officer ยูพีเอส กล่าวว่า "การร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนคือกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ โดยต่างฝ่ายต่างมีส่วนร่วมตามกำลังและความเชี่ยวชาญเฉพาะของตน สำหรับยูพีเอสเองก็ยังคงแสวงหานวัตกรรมมาใช้เสริมสร้างศักยภาพด้านโลจิสติกส์เพื่อให้ความช่วยเหลือชีวิตผู้คนอย่างไม่หยุดยั้ง และเราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ GAVI และซิปไลน์ ในการศึกษาวิธีในการนำนวัตกรรมที่ช่วยเหลือรัฐบาลรวันดาไปใช้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก"

ภายในปี 2559 นี้ รัฐบาลรวันดาจะเริ่มใช้โดรนของซิปไลน์ซึ่งสามารถจัดส่งเลือดเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินสู่ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายโลหิต 21 แห่งในฝั่งตะวันตกของประเทศได้สูงสุด 150 เที่ยวต่อวัน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก แอฟริกานับว่ามีอัตราการเสียชีวิตของมารดาเนื่องจากภาวะตกเลือดหลังคลอดสูงที่สุดในโลก การขยายบริการเปลี่ยนถ่ายโลหิตให้ทั่วถึงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของผู้หญิงทั่วทั้งทวีปแอฟริกา"

ดร. เซ็ธ เบิร์กลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรพันธมิตรโลกเพื่อวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันโรค หรือ GAVI กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างเรากับยูพีเอส และซิปไลน์ ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสู่มิติใหม่ของการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งทำให้วิธีการจัดส่งวัคซีนสู่ชุมชนห่างไกลมีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และเราหวังอย่างยิ่งว่าเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือยูเอวี จะเป็นวิธีการใหม่ในการจัดส่งวัคซีนให้กับเด็ก ๆ ในพื้นที่ธุรกันดารที่สุดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ"

ในช่วงแรก เครือข่ายโดรนทั่วประเทศรวันดาจะมุ่งใช้สำหรับการจัดส่งโลหิต โดยมีแผนจะขยายให้สามารถครอบคลุมการจัดส่งวัคซีน เวชภัณฑ์สำหรับเฮชไอวี/เอดส์ มาเลเรีย วัณโรค และยารักษาโรคสำคัญอื่น ๆ โดยคาดว่าการจัดส่งยาด้วยโดรนในรวันดาจะสามารถช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้นับพันคนในช่วง 3 ปีนับจากนี้และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการในประเทศอื่น ๆ ได้

เคลเลอร์ รีนาอูโด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซิปไลน์ กล่าวว่า "การที่เราไม่สามารถจัดส่งยาสำคัญ ๆ ไปสู่ผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ห่างไกลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับล้านในแต่ละปี การร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวร ด้วยความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์ของทั้งยูพีเอส GAVI และซิปไลน์ การจัดส่งด้วยโดรนจะช่วยให้เราสามารถช่วยชีวิตผู้คนนับพันได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน"

บุนเทียม ตัน กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับความร่วมมือครั้งนี้ และเล็งเห็นว่าการจัดส่งด้วยโดรนสามารถนำมาใช้กับโครงการด้านสาธารณสุขต่าง ๆ ในพื้นที่ชนบทที่อยู่ห่างไกล ชุมชนในท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ได้รวดเร็วขึ้นในเวลาที่เกิดเหตุวิกฤตต่าง ๆ"

ยูพีเอสจับมือซิปไลน์และ GAVI ใช้โดรนบังคับส่งยา เวชภัณฑ์ วัคซีนในกรณีฉุกเฉินที่รวันดา เพื่อเป็นต้นแบบนำไปใช้ประเทศอื่น ๆ ยูพีเอสจับมือซิปไลน์และ GAVI ใช้โดรนบังคับส่งยา เวชภัณฑ์ วัคซีนในกรณีฉุกเฉินที่รวันดา เพื่อเป็นต้นแบบนำไปใช้ประเทศอื่น ๆ ยูพีเอสจับมือซิปไลน์และ GAVI ใช้โดรนบังคับส่งยา เวชภัณฑ์ วัคซีนในกรณีฉุกเฉินที่รวันดา เพื่อเป็นต้นแบบนำไปใช้ประเทศอื่น ๆ