1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย ครั้งที่ 49 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5พฤษภาคม 2559 ภายใต้หัวข้อ "ความร่วมมือเพื่อความยั่งยืน" (Cooperative for Sustainability)โดยในวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมงาน Host Country Reception และถ่ายภาพหมู่กับนาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและผู้ว่าการของประเทศสมาชิกร่วมกัน จากนั้น ได้ร่วมเข้าฟังปาฐกถาของนาง Angela Merkel ด้วย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ในช่วงพิธีเปิดการประชุมฯ เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ของนาย TakehikoNakao ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย นาย Horst Köhler อดีตประธานาธิบดี และนาย Gerd Müller รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Federal Minister for Economic Cooperation and Development) รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมฯ โดยมีประเด็นสำคัญที่หยิบยก อาทินโยบายการดำเนินงานที่สำคัญในการมุ่งเป้าหมายไปสู่การลดความยากจนในเอเชีย-แปซิฟิกผ่านการสร้างงานที่มีคุณภาพ การพัฒนาภาคเอกชน และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายของ ADB ที่ต้องมีความยืดหยุ่น สอดคล้อง และตอบสนองเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว ความร่วมมือของกลุ่มนอกภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Non-Region) ในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในการลดความยากจนและพัฒนาอย่างทั่วถึง ยั่งยืนและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวสุนทรพจน์และเผยแพร่ในสื่อเว็บไซต์ของธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งมีเนื้อหาสรุปเกี่ยวกับสภาวะทางเศรษฐกิจและนโยบายที่สำคัญๆ ทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานตลอดจนโครงสร้างทางการเงินของประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางและพัฒนาประเทศตามแนวทางวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030ทั้งนี้ มีผู้ว่าการจากประเทศสมาชิกอื่น ๆ จำนวน 33 ประเทศ อาทิ ผู้ว่าการประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาประเทศจีน ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ด้วย ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2559
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมหารือแบบโต๊ะกลม (Governors' Roundtable) ในหัวข้อ How Trade, Technology and New Business Models are Shaping Asia's Quest for Quality Jobs ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ว่าการของประเทศสมาชิกจำนวน 12 ประเทศ ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสนอแนะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการพัฒนาทางเทคโนโลยีต่อการจ้างแรงงาน ซึ่งหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยได้มีการดำเนินนโยบายรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านแรงงานที่สำคัญ เช่น การพัฒนาศึกษาและยกระดับฝีมือแรงงานเฉพาะ (Vocational Education)รวมทั้งการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้นใหม่ (Start-up) ซึ่งถือเป็นนายจ้างที่สำคัญของประเทศ
4. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับนาย Takehiko Nakao ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย ในประเด็นความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย รวมทั้งประเด็นการยกระดับสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB Thailand Resident Mission: ADB TRM) ให้เป็นสำนักงานศูนย์กลางในระดับภูมิภาค เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาและความร่วมมือด้านต่างๆ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทยนอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงจากองค์การระหว่างประเทศ และสถาบันชั้นนำหลายแห่ง อาทิ กลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation: JBIC) ธนาคาร HSBC กลุ่ม Nomura กลุ่ม CITI ด้วย
5. ปลัดกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมประเทศผู้บริจาคในกองทุนพัฒนาเอเชีย 12 (Asian Development Fund 12 Donors Consultation Meeting)รอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อแสดงเจตจำนงในการเข้าร่วมบริจาคเงินของประเทศไทยในกองทุนพัฒนาเอเชีย 12 ดังกล่าวที่จะเริ่มการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2560 – 2563 ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุม Governors' Plenary ในหัวข้อ Sustainable Development Goals and Asia 2030 โดยเป็นการหารือร่วมกับสมาชิกของธนาคารพัฒนาเอเชีย เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศสมาชิกในอีก 15 ปีข้างหน้า นโยบายที่สำคัญ เช่น นโยบายด้านการลงทุน แผนงานการลงทุนภาครัฐ การพัฒนาภาคเอกชน ในการขับเคลื่อนประเทศสมาชิกเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การนำเสนอประเด็นการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของประเทศที่กำลังพัฒนา รวมทั้งข้อเสนอแนะแนวทางในการดำเนินงานของ ADB ในการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของแต่ละประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป