นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ออกบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดใหม่ ที่มีความปลอดภัยสูงในการทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็ม การซื้อของผ่านร้านค้าทั่วไปและร้านค้าออนไลน์ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยพัฒนาระบบชำระเงินของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และวางพื้นฐานสู่การส่งเสริมการชำระเงินในรูปแบบ e-Payment เพื่อลดการใช้เงินสดตามนโยบายของรัฐบาล และพร้อมกันนี้ธนาคารฯ ได้ทยอยปรับปรุงเอทีเอ็มทั่วประเทศประมาณ 12,000 เครื่อง ให้รองรับการใช้งานของบัตรเดบิตในรูปแบบชิปการ์ดจากทุกธนาคาร
บัตรเดบิตกสิกรไทยแบบชิปการ์ด มี 3 รูปแบบ คือ บัตรเดบิต K-Debit Card เป็นบัตรที่สามารถทำธุรกรรมได้ที่เครื่องเอทีเอ็ม ใช้ซื้อสินค้าในร้านค้า และช้อปออนไลน์ได้ทั่วโลก บัตรเดบิต K-My Play บัตรสำหรับชีวิตสุดล้ำ ให้ สนุกกับความบันเทิงออนไลน์ ผ่าน 3 แอพพลิเคชันดัง ด้วยสิทธิประโยชน์ในการดูหนังและซีรีย์ทั้งไทยและต่างประเทศออนไลน์ผ่าน PrimeTime ฟังเพลงฮิตติดหูกว่ายี่สิบล้านเพลงทั่วโลกผ่าน KKBOX อ่านนิตยสาร หนังสือพิมพ์และนวนิยายไม่อั้นกับ OOKBEE รวมมูลค่ากว่า 400 บาท ได้ฟรี 1 เดือน และรับส่วนลด 15 – 30% ในเดือนถัดไป บัตรเดบิต K-Max Plus ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุเต็มแม็กซ์กับค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000 บาทต่ออุบัติเหตุ 1 ครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง เงินชดเชยกรณีรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุดวันละ 300 บาท (30 วันต่ออุบัติเหตุ 1 ครั้ง) และคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุสูงสุด 200,000 บาท และทุกบัตรยังได้รับสิทธิประโยชน์จากกิจกรรมส่งเสริมการขายจากบัตรเดบิตกสิกรไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับในปีนี้ธนาคารกสิกรไทยได้เพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับบัตรเดบิตกสิกรไทย K-My Play และ K-Max Plus ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น ได้แก่ ดูหนังในเครือ SF ราคา 100 บาท ทุกเรื่อง ทุกรอบ ช้อปออนไลน์ผ่าน ZALORA, iTrueMART, TARAD.com และ ensogo รับส่วนลด 12% จองที่พักผ่าน Expedia รับส่วนลด 10% และ agoda รับส่วนลด 7% แพคเกจความงามราคาพิเศษกับ ROMRAWIN, Slimming Plus, Skin Doctors และ Slim Up ราคาเริ่มต้น 999 บาท นอกจากนั้นสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรทุก 1,000 คะแนนแลกเงินคืน 100 บาท
นางนพวรรณ กล่าวว่า บัตรเดบิตกสิกรไทยแบบชิปการ์ดทั้ง 3 แบบ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล โดยข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในชิปที่ป้องกันการถูกคัดลอกข้อมูลหรือสกิมมิ่ง พร้อมเพิ่มรหัสพิน (PIN)จาก 4 หลัก เป็น 6 หลัก และใช้งานได้สะดวกทุกช่องทาง ทั้งธุรกรรมถอนโอนจ่ายผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ทุกเครื่องที่รองรับบัตรชิปการ์ดตามมาตรฐานวีซ่า (VISA)ทั่วโลก ซื้อสินค้าผ่านเครื่องรับบัตร (EDC) ช้อปออนไลน์โดยใช้ข้อมูลบัตร และยืนยันด้วยรหัส OTP (One Time Password) ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจเปลี่ยนบัตรเดบิตจากแบบแถบแม่เหล็กเป็นชิปการ์ด สามารถติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้ โดยจะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า และเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมรายปีตามประเภทของบัตร
ปัจจุบันมีลูกค้าผู้ถือบัตรเอทีเอ็มและเดบิตของธนาคารกสิกรไทยกว่า 10 ล้านบัตร คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 17% จากผู้ถือบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตในไทยทั้งหมด 60 ล้านบัตร มีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตกสิกรไทยประมาณ 45,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ถือเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตอยู่ที่ 108,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาบัตรเดบิตกสิกรไทยมุ่งใช้กลยุทธ์รูปแบบ "ยูนิเวอร์แซล เดบิต การ์ด" (Universal Debit Card) คือใช้บัตรเดบิตเพียงบัตรเดียวได้ในทุกที่และทุกเรื่อง ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ชิปการ์ดที่มีความปลอดภัยสูงน่าจะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ธนาคารคาดว่าจะมีลูกค้าเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ดในปีนี้ประมาณ 2 ล้านบัตร อย่างไรก็ตามลูกค้าที่ถือบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็ก ก็ยังคงใช้บัตรเดิมได้ตามปกติจนกว่าบัตรจะหมดอายุ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit