นายปิยพันธ์ วงศ์ยะรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท สต็อคทูมอร์โรว์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่เปิดมากว่า 10 ปีดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Social Enterpriseที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ ผ่านการสร้างผลกำไรให้สังคม ด้วยการสร้างและพัฒนาสังคมนักลงทุนคุณภาพให้กับประเทศ ควบคู่ไป โดยในเบื้องต้นที่ดำเนินการนั้นจะเป็นการให้ความรู้และสร้างสังคมคุณภาพด้านหุ้นนั้นถือว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี มีกลุ่มคนเข้ามาพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ในการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มคนดังกล่าวก็มีความสนใจที่จะลงทุนในรูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นมั่นใจแพลตฟอร์ม 3 ธุรกิจใหม่ตอบโจทย์นักลงทุนยุควิกฤติดอกเบี้ยต่ำ
เพื่อสอดรับกับความต้องการดังกล่าว ล่าสุด ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จึงได้ขยายขอบข่ายการให้บริการเกี่ยวกับการลงทุนและบริการคู่ค้าแบบครบวงจรผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจ 3 บริษัทใหม่ในเครือประกอบด้วย บริษัท ยูทู มอร์โรว์ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้ความรู้และสร้างสังคมคุณภาพพัฒนาตนเอง, บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด สื่ออสังหาฯรูปแบบใหม่ที่เน้นการให้ข้อมูล จาก Influencer ในรูปแบบที่หลากหลายและสร้างสังคมคุณภาพด้านอสังหาฯ และ บริษัท อีเว้นท์ทูมอร์โรว์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจรับจัดกิจกรรมหรือจัดอีเว้นท์ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การขยายการให้บริการผ่านบริษัทในเครือดังกล่าวนั้นด้วยเพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจประกอบกับต้องการที่จะตอบโจทย์ให้กับกลุ่มคนอีก 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกคือ กลุ่มนักลงทุนที่มีในฐานข้อมูลปัจจุบันให้ความสนใจลงทุนหุ้นผ่าน สต็อคทูมอร์โรว์อยู่ประมาณ 300,000 ราย และ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มอีก 50,000 ราย
ในปี 2560 และ นักลงทุนกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มคนที่ต้องการลงทุนในรูปแบบที่หลากหลายไปจากลงทุนในหุ้นโดยสัญญาณการลงทุนดังกล่าวนั้นสะท้อนภาพผ่านพฤติกรรมการลงทุนที่เปลี่ยนไป อีกทั้งกลุ่มคนที่มีความสนใจด้านการลงทุนนั้นพบว่าเฉลี่ยอายุน้อยลงมาอยู่ที่ 24-35 ปี จากก่อนหน้านี้อายุของกลุ่มคนที่สนใจการลงทุนจะมีอายุเฉลี่ยกว่า35 ปีขึ้นไป ปัจจุบัน " กว่า10 ปี สต็อคทูมอร์โรว์ อยู่ในวงการเราเห็นถึงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของนักลงทุนได้ชัดเจนมากทั้งในด้านจำนวนผู้สนใจที่เพิ่มขึ้น โปรดักส์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่นักลงทุนให้ควาสนใจ รวมถึงค่าเฉลี่ยของอายุของนักลงทุนที่ลดลง และทุกคนที่มีความสนใจด้านการลงทุนต่างล้วนต้องการแสวงหาความรู้ และข้อมูลก่อนที่จะลงทุน ซึ่งจะต่างจากอดีต" นายปิยพันธ์ กล่าวพร้อมกับระบุว่าจากสถิติข้อมูลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจะพบว่าอัตราการเพิ่มของนักลงทุนรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในช่วง 2ปีหลังเพิ่มขึ้นถึง 100% ต่อปีระบุ 3 ปัจจัยหลักตัวเร่งพฤติกรรมลงทุนเปลี่ยน
พร้อมกันนี้นายปิยพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่เริ่มเห็นแนวโน้มชัดเจนที่เป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการลงทุนเปลี่ยนไปมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้คือ 1. ดอกเบี้ยที่ต่ำ 2.การลดการคุ้มครองเงินฝาก และ 3.ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยากมากยิ่งขึ้น จากปัจจัยต่างๆดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อ กลุ่มคนที่รายได้ประจำหรือเรียกว่ามนุษย์เงินเดือน และกลุ่มที่มีเงินฝากไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินแล้วได้ผลตอบแทนดอกเบี้ยไม่คุ้มจึงแสวงหาการลงทุนในรูปแบบอื่นๆที่คุ้มมากกว่า
ทั้งนี้ในการดำเนินธุรกิจของ ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป ยังคงยึดมั่นแนวคิดในการสร้างเครือข่ายหรือการสร้างสังคมการลงทุนที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องในรูปแบบ Social Enterprise ที่ดำเนินการมาตลอดกว่า 10 ปีรวมถึงการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเปิดรับกับโอกาสการลงทุนใหม่ๆเสมอ โดยทุกแพลตฟอร์มธุรกิจที่ดำเนินการจะมีความเกี่ยวเนื่องเกื้อกูลซึ่งกันและกันในการนำองค์ความรู้ที่ดีๆไปสู่คนที่สนใจทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ
ด้านนายปกรณ์ พงศ์วราภา ประธานบริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อีเว้นท์ทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท อีเว้นท์ทูมอร์โรว์ เกิดจากการร่วมมือกันว่า บริษัทจีเอ็มฯกับพันธมิตรทางธุรกิจอีก 3 ราย ได้แก่ ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป, บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด และ บริษัทซี ทรู จำกัด โดยจะประเดิมงานแรก คือในช่วงปลายปี 2559 เป็นการจัดมหกรรมการลงทุนระดับชาติ ในงานดังกล่าวจะเป็นการรวบรวมตลาดการลงทุนที่ได้รับความนิยมทุกประเภทที่มีอยู่ในประเทศไทย มาไว้ในงานเดียว รวมทั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนด้านต่างๆพร้อมเวทีการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องโดยวิทยากรมืออาชีพ
นายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า จากการดำเนินการมาร่วม 10 เดือนที่ผ่านมาจะพบว่ามีนักลงทุนใหม่ให้ความสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นเห็นได้จากยอดนักลงทุนที่มีความสนใจเข้ามาเป็นสมาชิกรวมกว่า 30,000 ราย และเชื่อว่าปริมาณนักลงทุนน่าจะขยายอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทจะใช้กลยุทธ์ผ่านการสร้างโอกาสและลู่ทางในการลงทุนให้เกิดขึ้นผ่านฐานข้อมูลของ พร็อพทูมอร์โรว์ ด้วยการร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ออกแบบพัฒนาแพคเก็จการตลาดและการขายตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งนอกจากจะช่วยสนองตอบความต้องการของกลุ่มนักลงทุนของบริษัทแล้ว ในมุมของผู้ประกอบการเจ้าโครงการก็สามารถระบายสินค้าออกสู่ตลาดได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีโครงการพัฒนาบุคคลากรทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการศึกษาระดับสากล 2 แห่ง เพื่อพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาบุคคลากร และป้อนให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งน่าจะสามารถเปิดโครงการได้ก่อนสิ้นปีนี้ ปูพรม 20 สถาบันการศึกษาค้นหาดีเอ็นเอนักลงทุนรุ่นใหม่
นางสาวพลอย ลุมทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ยูทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการศึกษาสมัยนี้เป็นเพียงเรื่องพื้นฐานไปแล้ว แต่การลงทุนกับ "องค์ความรู้" จะเป็นสิ่งที่การันตี การยกระดับและพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพในระยะยาว ยูทูมอร์โรว์จึงตั้งมั่นที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง "คนรุ่นใหม่" กับ "ผู้ที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิต" โดยเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการลงทุนให้คนรุ่นใหม่ เพื่อให้พวกเขามีโอกาสได้ค้นหาตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยว่าจะวางแนวทางชีวิตอย่างไรกับอะไรในอนาคต และได้วางแผนที่จะดำเนินการเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานในระยะต่อไปในระยะยาวประกอบด้วย
การขยายฐานภาคีเครือข่าย สังคมคนรุ่นใหม่ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาตนเองตั้งแต่ในระดับอุดมศึกษา ผ่านการเข้าไปจัดกิจกรรมในโครงการ "ค้นหาดีเอ็นเอของตัวเอง" มหาวิทยาลัยเป้าหมาย 20 สถาบันทั่วประเทศ และคาดว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 50,000 คนในปี 2560
นอกจากนี้ในส่วนของคอร์สอบรมและสื่อการสอนต่างๆ จะเน้นบุคคลตัวอย่าง ที่เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ยึดมั่นที่จะเปลี่ยนเรื่องการศึกษาให้เป็นเรื่องที่สนุก โดยมีการจับมือกับไอดอลระดับประเทศตัวจริงจากหลากหลายสาขา มาเผยแพร่ทัศนคติที่ดีภายใต้โครงการ "YouProgram" ที่เน้นหนักในการลงมือทำจริงให้เห็นผลลัพธ์ ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของยูทูมอร์โรว์ นั้นเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไปในอนาคตได้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit