มร. เครเมอร์ บอลล์ ซีอีโอของสายการบินอลิตาเลีย กล่าวว่า "เราเปิดตัวรูปลักษณ์ใหม่ของอลิตาเลียที่สามารถสะท้อนให้เห็นตัวตนขององค์กรในวันนี้ได้อย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับที่องค์กรกำลังเดินทางไปสู่การเริ่มต้นใหม่และการเติบโตขึ้นของธุรกิจ ในขณะเดียวกัน เราก็เฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ 70ปี ขององค์กรไปพร้อมกันด้วย โดยเป้าหมายของเราคือการทำให้คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายแสดงความเป็นเลิศของอิตาลีให้นานาชาติได้เห็นอย่างครบถ้วน เพราะอิตาลีเป็นหนึ่งในผู้นำด้านแฟชั่นและการออกแบบ เครื่องแบบใหม่ของเราจึงเป็นตัวแทนของยุคทองของแบรนด์อลิตาเลียและการกลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบของสายการบิน"
มร. เอตตอเร บิลอตตา กล่าวว่า "การได้รับโอกาสให้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับแบรนด์ที่อยู่คู่กับประเทศมานานเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง และยังเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้สร้างสรรค์คอลเลคชั่นพิเศษที่จะแสดงถึงความเป็นประเทศอิตตาลีของเรา และความภูมิใจในอลิตาเลียในฐานะตัวแทนของอิตาลีในสายตาชาวโลก อลิตาเลียเป็นหนึ่งในแบรนด์สายการบินที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกและผมต้องสร้างผลงานออกมาให้พิเศษสุด การได้ทำงานร่วมกับสายการบินในทุกขั้นตอนการออกแบบถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง เท่ากับว่าทั้งโครงการนี้เกิดขึ้น ดำเนินไปได้ และเสร็จสมบูรณ์ในอิตาลีโดยฝีมือคนอิตาเลียนทั้งสิ้น และนั่นก็แสดงให้เห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรม ผู้คน ดีไซน์ และภูมิทัศน์ของประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้"
มร. ออบรีย์ ทีดต์ ประธานฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของอลิตาเลีย เปิดเผยว่า "เครื่องแบบใหม่ของอลิตาเลียแสดงถึงความงาม ความมีสไตล์ และความเป็นเลิศของอิตาลี เราต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสความยอดเยี่ยมของประเทศนี้ในทุกสิ่งรอบตัว และไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการสื่อผ่านเครื่องแต่งกายของพนักงาน"
ในการที่จะนำเสนอความเป็นอิตาลีอย่างแท้จริงได้นั้น ดีไซเนอร์ได้สืบค้นเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม อนุสาวรีย์ และวิถีชีวิตประจำวันของชาวอิตาเลียน อีกทั้งยังดึงแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ในที่ต่างๆ และจบลงที่ระเบียงบ้านเรือนใน "ซิงเกว เตร์เร" ที่อิตาเลียนริเวียรา ซึ่งเป็นที่มาของหมวกพนักงานในคอลเลคชั่นนี้ ที่เช่นเดียวกับสไตล์ของผู้คนในยุค 50 และ 60 ที่สุภาพสตรีจะต้องมีหมวกและถุงมือสวยๆ เป็นเครื่องประดับชิ้นสำคัญเสมอ ทั้งนี้ โจทย์ที่อลิตาเลียมอบให้กับดีไซเนอร์ก็คือ เครื่องแบบใหม่นี้จะต้องสง่างามเหนือกาลเวลา ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกแบบอิตาเลียนเข้ากับกิจวัตรประจำวันของพนักงานชายหญิงที่ต้องเคลื่อนไหวได้คล่องตัว
การตัดเย็บและสีสันของของคอลเลคชั่นถูกเลือกสรรมาให้ส่งเสริมกันอย่างลงตัว บิลอตตาใช้สีแดงเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่น (แพชชัน) ของชาวอิตาเลียน สีเขียวเพื่อแสดงถึงความเป็นเลิศของธรรมชาติในชนบทของอิตาลี ตลอดจนความเข้มข้นของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกันมา ขณะที่ การผสมผ้าขนสัตว์ 96 เปอร์เซ็นต์ เข้ากับอีลาสเตน 4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สวมใส่สบายและทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
เครื่องแต่งกายสำหรับลูกเรือหญิงนั้น ใช้สีเบอร์กันดี (ม่วงแดง) ไล่โทนสีแดงอ่อน ทำได้โดยการใช้การทำลายเชฟรอน สำหรับพนักงานภาคพื้นดิน สีเทาชาร์โคล (เทาเข้ม) ไล่โทนสีเขียว ก็เกิดขึ้นจากวิธีเดียวกัน ขั้นตอนดังกล่าวใช้กับเครื่องแต่งกายแต่ละชิ้น รวมถึงแถบที่เชิ้ตขาวที่มีลายสีแดงสำหรับลูกเรือ และสีเขียวสำหรับพนักงานภาคพื้นดินด้วย ซึ่งพนักงานหญิงทุกคนจะได้รับชุดทั้ง 3 แบบ – ชุดเดรส (แบบ 1 ชิ้น) แจ็กเกตเพื่อเลือกใส่กับกระโปรง หรือกางเกงขายาว (แบบ 2 ชิ้น)
เครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายก็ใช้ลายเชฟรอนสีเทาเข้มและเขียวสด ลูกเรือผู้ชายทุกคนจะต้องใส่เสื้อกั๊กแบบกระดุมคู่ในโทนสีเดียวกัน โดยที่ลูกเรือจะใส่โทนสีหนึ่ง ส่วนลูกเรือภาคพื้นดินจะใส่สีสลับกัน ขณะที่ เนกไทของลูกเรือชายจะเป็นสีแดง และเนกไทของพนักงานภาคพื้นดินจะเป็นสีเขียว เพื่อให้เข้ากับชุดของฝ่ายหญิง ทั้งนี้ ลูกเรือหญิงจะมีเสื้อคลุมทรงเครปสีเบอร์กันดี ลูกเรือชายและพนักงานภาคพื้นดินฝ่ายหญิงจะเป็นเสื้อคลุมสีเขียว ส่วนพนักงานภาคพื้นดินฝ่ายชายจะเป็นสีเทาเข้ม
เครื่องประดับ เช่น เนกไท เสื้อกั๊ก เสื้อหนาว ผ้าพันคอ เข็มขัด รองเท้า ถุงมือ และกระเป๋า จะเข้ากันกับชุดทั้งหมด โดยจะมีลักษณะเป็นอิตาลีร่วมสมัยและมีความคลาสสิกปนอยู่ด้วย เครื่องหนังของลูกเรือหญิงเป็นโทนสีเขียว ของพนักงานภาคพื้นดินหญิงเป็นสีเบอร์กันดี และของฝ่ายชายทุกคนเป็นสีดำ
เครื่องแบบใหม่นี้จะค่อยๆ ถูกเพิ่มเติมเข้าไปในระบบในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ สวมใส่โดยพนักงานอลิตาเลีย ทั้งลูกเรือและพนักงานภาคพื้นดินราว 5,700 คน รวมถึงพนักงานเช็กอินและพนักงานประจำเลาจน์ด้วย และหลังจากนี้จะมีการออกแบบเครื่องแบบใหม่ให้ครอบคลุมไปถึงนักบินและส่วนปฏิบัติการด้วย
สำหรับภาพเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://we.tl/v98AHc2DK3
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit