บิลบอร์ด และ ดิก คลาร์ก โปรดักชั่นส์ ประกาศว่า พิงก์ (P!nk) นักร้อง-นักแต่งเพลงมือวางระดับรางวัล จะนำผลงานเพลงใหม่ชื่อว่า "Just like Fire" มาแสดงออกอากาศเป็นครั้งแรกทางโทรทัศน์ ทั่วโลกในงานประกาศรางวัลบิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส 2559 โดยเพลงต้นฉบับดั้งเดิมจะใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องใหม่ของดิสนีย์เรื่อง Alice Through the Looking Glass "งานประกาศรางวัลบิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส 2559" จะออกอากาศสดในเช้าวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม เวลา 7.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งสามารถติดตามชมได้ทาง ช่องอาร์ทีแอล ซีบีเอส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เอชดี (ทรูวิชั่นส์ 337) งานประกาศรางวัลฯ ในปีนี้จะมีลูดาคริส ศิลปินฮิปฮอป และซิเอรา ซุปเปอร์สตาร์ดังแห่งวงการเพลงระดับนานาชาติ มารับบทเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยในงานจะมีการแสดงโชว์ที่ยิ่งใหญ่อลังการ และได้เห็นความร่วมมือต่างๆ ที่เหนือความคาดหมาย รวมทั้งช่วงเวลาแห่งวงการเพลงป๊อปที่คนล้วนกล่าวขานถึง
นับตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาวงการในปี 2543 พิงก์ได้ปล่อยผลงานมาแล้วทั้งหมด 7 ผลงาน โดยมียอดขายมากกว่า 60 ล้านอัลบั้ม 130 ล้านเพลง และดีวีดี 2.4 ล้านแผ่น ทั่วโลก ทั้งนี้ มีทั้งหมด 14 เพลงที่ติดอันดับท็อป 10 ในชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 (มี 4 เพลงที่ติดอันดับ 1) นอกจากนั้น เธอยังได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส 3 รางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส 1 รางวัล เอ็มทีวี วิดีโอมิวสิค อวอร์ดส (MTV Video Music Awards) 6 รางวัล เอ็มทีวี ยุโรป อวอร์ดส (MTV Europe Awards) 2 รางวัล พีเพิลส์ ชอยส์ อวอร์ดส(People's Choice Awards) 2 รางวัล และได้รับเลือกให้เป็นบิลบอร์ด วูแมน ออฟ เดอะ เยียร์ ในปี 2556 งาน The Truth About Love World Tour จัดแสดง 142 รอบใน 13 ประเทศ และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2557 เธอได้ออกผลงานเสริมที่ใช้ชื่อว่า You+Meร่วมกับ ดัลลัส กรีน นักร้องและนักแต่งเพลง โดยผลงานอัลบั้มของเขาทั้งสองที่ชื่อว่า rose ave. เปิดตัวโดยขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ด โฟล์ค อัลบั้ม และอันดับ 2 ในชาร์ตบิลบอร์ดดิจิทัลอัลบั้ม ต่อมาในปี 2558 พิงก์ได้รับเลือกเป็นทูตยูนิเซฟคนใหม่ล่าสุด เธอเป็นผู้สนับสนุนงานการกุศลตัวยง ไม่ว่าจะเป็น Make a Wish Foundation Autism Speaks Human Rights Campaign และ No Kid Hungry ปัจจุบันเธอเป็นโฆษกของคัฟเวอร์เกิร์ล แถมยังเข้าสู่วงการแสดงในภาพยนตร์ของค่ายไลออนเกตเรื่อง Thanks for Sharing โดยแสดงร่วมกับกวินเน็ธ พัลโทรว์ และมาร์ค รัฟฟาโล่ ทั้งนี้ เพลง "Just Like Fire" เป็นผลงานเพลงแรกของเธอในรอบ 3 ปี
ในภาพยนตร์ของดิสนีย์เรื่อง Alice Through the Looking Glass หนังแนวผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ตระการตาเรื่องใหม่ ซึ่งนำเสนอบทบาทตัวละครอันเป็นที่น่าจดจำจากบทประพันธ์ที่น่าชื่นชมของลูอิส แครอลล์ (Lewis Carroll) โดยตัวละครอลิซได้หวนกลับมายังโลกจินตนาการของอันเดอร์แลนด์ (Underland) และเดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยเหลือแมด แฮทเทอร์(Mad Hatter) ผู้กำกับ เจมส์ บ๊อบบิน (James Bobin) ได้นำเอาเวอร์ชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเข้าไปในโลกอันตระการตาที่ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) สร้างขึ้นในปี 2553 ซึ่งอลิซอยู่ในวันเดอร์แลนด์ ภาพยนตร์นี้เขียนบทโดยลินดา วูลเวอร์ตัน โดยใช้ตัวละครที่สร้างขึ้นโดยลูอิส แครอลล์ และควบคุมการผลิตโดยโจ รอธ (Joe Roth) ซูซาน ทอดด์ และเจนนิเฟอร์ ทอดด์ โดยมีทิม เบอร์ตัน และจอห์น จี สกอตติ (John G. Scotti) เป็นผู้อำนวยการสร้าง ทั้งนี้ Alice Through the Looking Glass ได้รวบรวมทีมนักแสดงระดับบล็อกบัสเตอร์ที่ดังทั่วโลก ได้แก่ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) แอน แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) มีอา วาซิโควสกา (Mia Wasikowska) แมตต์ ลูคัส (Matt Lucas), เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ (Helena Bonham Carter) ร่วมกับเสียงของอลัน ริคแมน(Alan Rickman) สตีเฟ่น ฟราย (Stephen Fry) ไมเคิล ชีน (Michael Sheen ) และทิโมธี สปอลล์ (Timothy Spall)
นอกจากนี้ยังมีตัวละครใหม่ที่ต้องการแนะนำ ได้แก่ ซานิก ไฮท็อปป์ (Zanik Hightopp) รับบทโดยไรส์ ไอฟานส์ (Rhys Ifans) ผู้เป็นพ่อของแมด แฮทเทอร์ และก็ไทม์ (Time) รับบทโดยซาชา บารอน โคเฮน (Sacha Baron Cohen) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งนาฬิกา ทั้งนี้ อลิซ คิงซลีร์ (Alice Kingsleigh) รับบทโดยมีอา วาซิโควสกา (Mia Wasikowska) ใช้เวลา 3 ปีที่ผ่านมาในการเดินตามรอยเท้าพ่อของเธอและได้แล่นเรือใบไปในทะเลหลวง (High seas) แต่ระหว่างทางที่เธอกำลังกลับไปยังลอนดอน เธอได้เจอกับแก้ววิเศษใบหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอได้กลับไปยังอาณาจักรแห่งจินตนาการของอันเดอร์แลนด์ และพบกับเพื่อนๆ ของเธอ คือไวท์ แรบบิท (White Rabbit) (แสดงโดยชีน) แอ๊บโซเลม (Absolem) (แสดงโดยริคแมน) เดอะเชสเซอร์แคท(Chesshire Cat) รับบทโดยฟราย และแมด แฮทเทอร์ (แสดงโดยเดปป์) ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา แฮทเทอร์ได้สูญเสียความเป็นตัวตนของเขา ดังนั้น มิราน่า (แฮททาเวย์) จึงได้ส่งอลิซเดินทางออกไปเพื่อขอยืม Chronosphere หรือลูกโลกเมทัลลิคที่อยู่ในหอนาฬิกาใหญ่ ซึ่งควบคุมกาลเวลาทั้งหมด ขณะที่ท่องไปในอดีต เธอได้พบทั้งเพื่อนและศัตรูในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในชีวิตพวกเขา และในระหว่างทางที่แสนโหดร้ายและอันตราย เธอต้องเผชิญกับการทำภารกิจแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือแฮทเทอร์ให้ได้ก่อนเวลาจะหมดลง
รายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส จะมาจากเสียงตอบรับจากแฟนที่มีต่อเพลงเป็นหลัก รวมถึงอัมบั้ม และยอดขายเพลงทางดิจิตอล เรดิโอ แอร์เพลย์ สตรีมมิ่ง การเข้าชมและมีการตอบโต้กันบนโซเซียลทั้ง เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ยูทูป สปอติฟาย และแหล่งฟังเพลงออนไลน์อื่นๆ ที่เป็นที่นิยม โดยจะทำติดตามวัดผลตลอดทั้งปีโดยบิลบอร์ดและข้อมูลจากพันธมิตรต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลมาจากนีลเส็น มิวสิค และ เน็กซ์ บิ๊ก ซาวน์ การแจกรางวัลจะยึดจากรายการการติดตามผลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2558 จนถึง วันที่ 17 มีนาคม 2559 รวมถึงผลการจัดอันดับเพลงฮิตที่สุดของบิลบอร์ดชาร์ต ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2558 จนถึง วันที่ 2 เมษายน 2559 บิลบอร์ดชาร์ตมีมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2483 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดอันดับความนิยมของเพลงและอัลบั้มต่างๆ รวมถึงใช้เป็นมาตรฐานที่วัดระดับความสำเร็จที่ดีที่สุดของบรรดานักดนตรี
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส 2559" สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.billboardmusicawards.com หรือข้อมูลของบิลบอร์ดได้ที่ www.billboard.com/bbma
สามารถติดตาม ข่าว เนื้อหาพิเศษ และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการประกาศผลรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส (BBMAs) ปีล่าสุดนี้ได้ทางโซเชียล และยังสามารถร่วมพูดคุยได้โดยติดแฮชแท็กคำว่า #BBMAs ซึ่งเป็นแฮชแท็กอย่างเป็นทางการของรายการ
เฟสบุค: FB.com/TheBBMAs
ทวิตเตอร์: @BBMAs
อินสตาแกรม: bbmas
ทัมเบลอร์: bbmas.tumblr.com/
สแนปแชท: thebbmas
ไวนน์: vine.co/Billboard.Music.Awards
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit