เวียตเจ็ทสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ครั้งใหญ่จากบริษัทโบอิ้ง เจิ่น ด่าย กวาง และ บารัค โอบามา ร่วมเป็นสักขีพยานในการสั่งซื้อเครื่องบิน 737 MAX 200 จำนวน 100 ลำ

23 May 2016
เวียตเจ็ท และโบอิ้งร่วมลงนามข้อตกลงการสั่งซื้อ เครื่องบิน 737 MAX 200 จำนวน 100 ลำ โดยมี ฯพณฯ นายเจิ่น ด่าย กวาง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นสักขีพยานในข้อตกลงครั้งสำคัญที่มีมูลค่าประมาณ 11.3 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการซื้อเครื่องบินเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุสาหกรรมการบินเวียดนาม งานลงนามครั้งนี้จัดโดย เหงียน ถิว เฟือง เถา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเวียตเจ็ทแอร์ และ เรย์ คอนเนอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์โบอิ้ง ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงฮานอย
เวียตเจ็ทสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ครั้งใหญ่จากบริษัทโบอิ้ง เจิ่น ด่าย กวาง และ บารัค โอบามา ร่วมเป็นสักขีพยานในการสั่งซื้อเครื่องบิน 737 MAX 200 จำนวน 100 ลำ

สายการบินเวียตเจ็ทมีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ โดยการเพิ่มจำนวนเครื่องบิน และขยายเส้นทางจากสนามบินนานาชาติต่างๆเชื่อมต่อกับจุดหมายอันเลื่องชื่อมากมายในเวียดนาม

ในงานลงนาม เหงียน ถิว เฟือง เถา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเวียตเจ็ทแอร์ ได้กล่าวว่า 'เวียตเจ็ท กำลังดำเนินการบินด้วยเครื่องบินขนาดเล็กอย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในเครื่องบินรุ่น B737 MAX 200 จะถูกปรับเข้ากับกลยุทธ์ของสายการบินเวียตเจ็ทในการขยายเครือข่ายเส้นทางต่างประเทศรวมไปถึงเที่ยวบินที่ต้องใช้เวลาบินนาน โดยข้อตกลงนี้ เวียตเจ็ทจะสนับสนุนการเพิ่มอัตราการหมุนเวียนทางการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงการบูรณาการและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินในเวียดนาม'

'โบอิ้งมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามอีกครั้ง' เรย์ คอนเนอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเครื่องบินพาณิชย์โบอิ้ง กล่าว 'เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร่วมกับประธานาธิบดีเจิ่น ด่าย กวาง และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในวาระสำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 737 MAX จำนวน 100 ลำ การผสมผสานระหว่างการออกแบบอันทันสมัยและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เครื่องบินรุ่น 737 MAX อันเปี่ยมประสิทธิภาพนี้ จะช่วยเพิ่มเครือข่ายการเติบโตของสายการบินเวียดเจ็ท ด้วยระบบประหยัดพลังงานชั้นนำ (ลดการใช้เชื้อเพลิง 20 เปอร์เซ็นต่อที่นั่ง เมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นแรก Next-Gen 737) ประสบการณ์การโดยสารที่ดีขึ้น และจะช่วยให้เวียตเจ็ทประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างมาก'

เครื่องบินเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง เวียตเจ็ท ในปี 2562 จนถึงปี 2566 เพื่อสนับสนุนการขยายเครือข่ายภายในประเทศของสายการบินเวียตเจ็ทอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการขยายเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อเป็นตัวเลือกในภูมิภาค ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เวียตเจ็ทมีเครื่องบิน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 200 ลำ ในสิ้นปี 2566 ซึ่งจะเป็นเครื่องบินที่ให้ความทันสมัยและเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในการให้บริการผู้โดยสารตามแนวคิดสายการบินยุคใหม่

ในพิธีลงนามเดียวกันในวันนี้ เวียตเจ็ทยังได้ลงนามข้อตกลงกับ แพรตต์ แอนด์ วิทนีย์ของ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ปสำหรับการจัดหาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่สั่งซื้อล่าสุด คือ แอร์บัส A320neo และ A321NEO พร้อมการจัดเตรียมทางด้านเทคนิคและการบำรุงรักษาสำหรับเครื่องบินเหล่านี้

ฯพณฯ นายเจิ่น ด่าย กวาง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาพร้อมกับคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ ร่วมเป็นพยานในการลงนามข้อตกลงที่ลงนามโดย นาย ดินห์ เหวียต พวง รองประธานสายการบินเวียตเจ็ท และแมรี่ เอลเลน โจนส์ รองประธานฝ่ายขาย บริษัท แพรตต์ แอนด์วิทนีย์ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าถึง 3.04 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ

HTML::image(