ไตรมาส 1 ปตท. ส่งสัญญาณฟื้นตัว แม้ราคาน้ำมันโลกยังอ่อนไหว

23 May 2016
เคร่งครัดนโยบายลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพต่อเนื่องแม้กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปีนี้เทียบช่วงเดียวกับปีก่อน ดีขึ้นเล็กน้อยเพียง 1,085 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4.8 มาอยู่ที่ 23,669 ล้านบาท และเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวก โดยที่ราคาน้ำมันโลกเริ่มลดความผันผวนและคาดการณ์ราคาค่อยๆ ปรับสูงขึ้น

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 2559 ว่า ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 23,669ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,085 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.8 จากไตรมาส 1 ปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 22,584 ล้านบาท สาเหตุหลักจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลงมากตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลงตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทำให้ผลการดำเนินงานของ ปตท. ดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ในส่วนของการขายผลิตภัณฑ์จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งเอ็นจีวีมีผลขาดทุนที่ลดลง

สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทในเครือนั้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ยังอ่อนตัวลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลงเล็กน้อย โดยในส่วนของโรงกลั่นนั้น ค่าการกลั่นทางบัญชีปรับตัวลดลงจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่นไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันที่ปรับลดลง ขณะที่ผลการดำเนินงานของโรงปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ปรับสูงขึ้นจากกำไรขั้นต้นต่อหน่วยผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ในงวดนี้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายก็ลดลงด้วย และจากค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่แข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี2558 ส่งผลให้บริษัทในกลุ่ม ปตท. มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น

ในไตรมาสที่ 1 ปี 2559 ปตท. และบริษัทย่อยมียอดขาย 386,940 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 24.9 และมีEBITDA 71,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 กำไรสุทธิต่อหุ้น 8.23 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3

นายเทวินทร์ กล่าวว่า แม้กำไรสุทธิไตรมาส 1 ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และทิศทางราคาน้ำมันที่ค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผลการดำเนินงานของ กลุ่ม ปตท. ในปีนี้ แต่นโยบายการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพนั้นยังเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในสภาวะราคาน้ำมันปัจจุบันที่ได้รับแรงกดดันจากปริมาณล้นตลาด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานหลายสำนักคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกปีนี้จะเคลื่อนไหวในระดับเฉลี่ยทั้งปีที่สูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในกรอบแคบๆ ประมาณ 40 - 50 เหรียญ อย่างไรก็ดี อาจจะมีความผันผวนบ้างในช่วงระยะสั้นๆ ตามข้อมูลข่าวสารหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศที่อาจจะยังมีความไม่แน่นอน