การวิจัยหัวข้อ "Budget Impact Analysis to Estimate the Cost Dynamics of Treating Refractory Gastroesophageal Reflux Disease With Radiofrequency Energy: a Payer Perspective" จัดทำขึ้นโดยคณะนักวิจัยจาก Baker Tilly LLP, Fairleigh Dickinson University และ Stanford University โดยใช้ข้อมูลการเบิกค่ารักษาพยาบาลจาก Medicare และระบบประกันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ อันประกอบด้วยข้อมูลราว 24 ล้านรายการ โดยจากการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า "การเพิ่มจำนวนครั้งในการรักษาด้วย RFE เป็น 2% ของเคสการรักษาทั้งหมดนั้น ช่วยประหยัดค่า Per-member, Per-month (PMPM) ได้ 0.28 ดอลลาร์ในกลุ่ม Medicare และประหยัดได้ 0.37 ดอลลาร์ในกลุ่มผู้เอาประกัน และเมื่อเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นอีกก็ช่วยลด PMPM ได้มากยิ่งขึ้น" นั่นหมายความว่า รัฐสามารถประหยัดต้นทุนได้มากกว่า 15 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากจำนวนผู้รับสิทธิ์ 5 ล้านคน
ข้อมูลจาก American Gastroenterology Association (AGA) ระบุว่า โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ที่มีค่าใช้จ่ายมากที่สุดในสหรัฐ โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกันประมาณ 1.42 แสนล้านดอลลาร์ เดวิด เกรกอรี่ จาก Baker Tilly อธิบายว่า "เนื่องจากต้นทุนในการรักษาโรคกรดไหลย้อนค่อนข้างสูง การที่ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งมีต้นทุนการรักษาลดลงเมื่อรักษาด้วย Stretta (RFE) จึงถือว่ามีนัยสำคัญ สำหรับการวิจัยในครั้งนี้ ได้มีการวิเคราะห์การเบิกค่ารักษาแบบย้อนหลัง เพื่อประเมินต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคกรดไหลย้อนด้วยยา การผ่าตัด หรือการส่องกล้อง (RFE/Stretta)"
"สำหรับแวดวงการดูแลสุขภาพในปัจจุบันนั้น การรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงจะต้องมีการดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ ควบคู่กับการประหยัดต้นทุนด้วย" นพ.จอร์จ ทริอาดาฟิโลปูลอส จาก Stanford University ซึ่งเป็นผู้ร่วมวิจัย กล่าว "เรารู้มาสักระยะหนึ่งแล้วว่า การรักษาโรคกรดไหลย้อนด้วย RFE มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และในตอนนี้ เราได้รับรู้เพิ่มเติมว่า RFE ช่วยลดต้นทุนการรักษาผู้ป่วยโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการรักษาโรคกรดไหลย้อนอย่างคุ้มราคา"
ราว 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐต้องทุกข์ทรมานจากโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง โดยผู้ป่วยจำนวนมากไม่ตอบสนองต่อยายับยั้งการหลั่งกรด (PPI) ซึ่งเป็นยาพื้นฐานในการรักษาโรคกรดไหลย้อน ขณะที่ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยก็กังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการใช้ยา PPI เป็นเวลานาน รวมถึงการผ่าตัด ดังนั้น Stretta จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ เพราะเป็นวิธีการรักษาที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการใช้ยากับการผ่าตัด
ผลการศึกษาสรุปว่า "นอกจากจะช่วยอุดช่องว่างระหว่างการใช้ยาและการผ่าตัดแล้ว การวิเคราะห์เชิงเศรษฐกิจยังแสดงให้ว่า RFE สามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับการใช้ยาหรือการผ่าตัด"
เกี่ยวกับ Mederi Therapeutics Inc. และ Stretta(R) Therapy
Mederi เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ที่ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RFE) ในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารแบบไม่ต้องผ่าตัด สำหรับผลิตภัณฑ์ Stretta Therapy ของ Mederi นั้น ผ่านการรับรองทางคลินิกว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรคกรดไหลย้อน โดยช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถลดหรือหยุดใช้ยาได้ และหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้ด้วย Stretta จะส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูกล้ามเนื้อระหว่างกระเพาะอาหารกับหลอดอาหาร ทำให้ขวางกั้นกรดไหลย้อนได้ดีขึ้น เกิดกรดไหลย้อนน้อยครั้งกว่าเดิม มีอาการบรรเทาลง และผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ผลการวิจัยกว่า 40 ครั้งแสดงให้เห็นว่า Stretta มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถบรรเทาอาการของโรคกรดไหลย้อนได้นานสูงสุดถึง 10 ปี ปัจจุบันมีการนำ Stretta ไปใช้ในการรักษาทั่วโลก
เกี่ยวกับ Baker Tilly
Baker Tilly เป็นบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการด้านบัญชีเต็มรูปแบบชั้นนำระดับประเทศ สำหรับในด้านการดูแลสุขภาพนั้น บริษัทมีบริการให้คำปรึกษา บริการด้านภาษี และการตรวจสอบบัญชี โดยมีการประสานงานกับระบบสุขภาพ กรมธรรม์ประกันสุขภาพ และโรงพยาบาลหลายร้อยแห่ง
สื่อมวลชนติดต่อ:
Mike Elofer
อีเมล: [email protected]
โทร. (484) 620-6167
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit