เสนาลิง พี่ใหญ่ในเวทีนี้ เป็นตัวแทนกล่าวความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานวันนี้ว่า "ความรู้สึกที่ได้มาร่วมโครงการ "อย่าให้ใครว่าไทย" นั้น ครั้งแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหน แต่มาทุกวันนี้ได้ยินหลายๆ คนรู้จักโครงการนี้มากขึ้น ก็ดีใจ เพราะผมเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ เรานี่แหละที่เปลี่ยนแปลงตัวเราได้ แต่ละที่เด็กๆ ก็ไม่เหมือนกัน อย่างผมนี่เริ่มต้นจากศูนย์ เป็นเด็ก จ.ระยอง มาอยู่วัดที่กรุงเทพฯ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ลำบากมาก แต่สิ่งที่ผมทำมาตลอดคือเรื่องของการประหยัดและรู้จักคุณค่าของเงิน อย่างเรื่องการใช้เงิน ผมอยากแนะนำน้องๆ ว่าเราเป็นนักศึกษาแล้ว ก็ต้องรู้ตัวเองว่ามีเงินอยู่เท่านี้ เราจะให้มันเพิ่มพูน ให้มันเท่าเดิม หรือให้มันร่อยหรอ ต้องคิดก่อนใช้ รอซื้อของตอนเซลล์ไหม รอโปรโมชั่นไหม จริงๆ ไม่ได้ห้ามใช้เงิน สามารถใช้เงินได้ แต่ให้ใช้เงินให้เป็น ให้เหมาะสมและมีเหตุมีผล แต่ระหว่างนั้นเราก็อาจจะหาเงินพิเศษเพิ่ม หางานเสริม นำความรู้ที่มีมาทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมา โดยอยู่ในหลักคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต หลักๆ คือ อย่าฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินแต่พอดี พยายามลดรายจ่าย เพราะเมื่อลดรายจ่ายก็เท่ากับเพิ่มรายได้ และต้องรู้จักประหยัด ออมก่อนใช้ ตั้งเป้าไปเลยว่าจะออมเท่าไรต่อเดือนหรือต่อสัปดาห์ เพราะถ้าใช้ก่อนออมจะไม่มือเติบ ที่สำคัญ เรื่องเงินต้องรู้จักคำว่าพอ พอประมาณ หมายถึง ไม่มากไม่น้อยเกินไป โดยไม่เบียดเบียนใคร พอในที่นี่มีความหมายหลายอย่าง ออมให้พอ ใช้เท่านี้ก็พอ ไม่สุรุ่ยสุร่าย และต้องมีเหตุมีผลในการใช้จ่ายเงิน รวมถึงมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง คือ เตรียมตัวด้านการเงินทั้งอนาคตทั้งใกล้และไกล"
"ท้ายสุด ผมขอฝากทุกๆ คนดูแลตัวท่านเอง และลูกหลานเยาวชนของท่าน คนรุ่นใหม่ที่จะโตขึ้นไปเป็นต้นกล้าที่ต้องกลายไปเป็นต้นไม้ใหญ่ และเป็นอนาคตของประเทศ เพราะฉะนั้น เราต้องให้ปุ๋ย ให้น้ำที่ดี ให้คุณธรรม ให้ความรู้ ให้สิ่งที่ดีงาม เพาะบ่มจิตใจ แล้วเขาจะกลายเป็นกำลังของชาติที่ดี มีทัศนคติที่ดี มีพฤติกรรมที่ดี แต่ครูบาอาจารย์ก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี รุ่นพี่ก็ต้องดูแลน้องๆ พ่อแม่ก็ต้องดูแลลูกๆ ด้วยครับ"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit