มร.เจฟเข้าร่วมงานกับไฮเนเก้นไต้หวันตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548 ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด และได้รับตำแหน่งสำคัญต่างๆ มากมายทั้งทางด้านการตลาดและการขายก่อนจะเข้ารับตำแหน่งสูงสุดฝ่ายด้านการตลาดให้กับองค์กรในปี พ.ศ. 2554 และได้รับการยอมรับในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่มีต่อกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมากมายตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จนทำให้ไฮเนเก้นไต้หวันครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 15% และขึ้นเป็นผู้นำด้านการตลาดประเภทเบียร์ระดับพรีเมียมในไต้หวันมาแล้ว ทั้งนี้ผลงานยอดเยี่ยมล่าสุดของมร.เจฟคือ การผลักดันให้ไฮเนเก้นในไต้หวันเติบโตจากการเป็นบริษัทที่มีเพียง 1 แบรนด์ภายใต้การดูแลของบริษัทแม่ ไปสู่องค์กรที่มีแบรนด์หลากหลายได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2557 และยังสามารถนำพาทีมงานทั้งหมดไปสู่ความสำเร็จจากการเปิดตัวไฮเนเก้น ไล้ท์ เดสเพอราโด้ ไทเกอร์ และสตรองโบ แอปเปิ้ล ไซเดอร์
ในโอกาสที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัท ทีเอพี นายเจฟ วู กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมมือกับ TAP ว่า "เป็นความท้าทายที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มบริษัททีเอพี ซึ่งมีทั้งแบรนด์ไฮเนเก้น ซึ่งเป็นไอคอนของเบียร์พรีเมียมในเมืองไทย ทั้งยังมีแบรนด์สุดคูลที่มีบุคลิกเฉพาะตัวอย่าง ไทเกอร์ และเชียร์ ในตลาดเมนสตรีม"
ทั้งยังได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเบียร์เมืองไทยในปีที่ผ่านมาว่า ตลาดเบียร์โดยรวมในประเทศไทยปี พ.ศ. 2558 เติบโตขึ้นจากปี พ.ศ. 2557 ประมาณ 1.3% ในแง่ปริมาณ[1] ซึ่งตลาดเติบโตในช่องทางเมนสตรีม ในขณะที่ไฮเนเก้น ซึ่งอยู่ในกลุ่มตลาดพรีเมียม ยังคงทรงตัวที่ส่วนแบ่งการตลาดที่ 96% ในขณะที่ กลุ่มบริษัท ทีเอพี มีส่วนแบ่งอยู่ในตลาดเบียร์เมืองไทยประมาณ 3.7%กลยุทธ์เพื่อคงความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมของเบียร์ไฮเนเก้น
1. แคมเปญการตลาดที่โดนใจ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค
2. ใช้อีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ของแบรนด์
3. การออกแบบบรรจุภัณฑ์สุดแนว เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์กลยุทธ์เพื่อสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นในตลาดเมนสตรีม ของแบรนด์ไทเกอร์ และเชียร์
1. ไทเกอร์ – สร้างประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร
2. เชียร์ – ด้วยการปรับภาพลักษณ์ใหม่ การเปลี่ยนแพกเกจจิ้ง ปรับรสชาติเบียร์ใหม่ รวมถึง การออกเบียร์รสชาติใหม่ "เชียร์ ซีเล็คชั่น" โดย มร.เจฟ ได้เผยกิจกรรมการตลาดหลักๆ ของ 3 แบรนด์ใหญ่ในปี 2559 ดังนี้
1) Heineken : กิจกรรมการตลาดสุดคูล ภายใต้แคมเปญ 'Shape Your City' & และนวัตกรรมด้านแพกเกจจิ้ง
แคมเปญที่เปิดมุมมองเกี่ยวกับ "เมือง" และการสะท้อนไอเดียของคนรุ่นใหม่ต่อเมืองของตัวเอง เพราะเราเชื่อว่าเมืองทุกเมืองมีมุมมองสนุกๆ ท้าทายแรงบันดาลใจให้คนเมืองได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ไม่จำกัดรูปแบบ ซึ่งจะทำให้เมืองของเราสนุกขึ้นได้อีก
เปิดตัวกระป๋องแบบ สลีคแคน ครั้งแรกในเมืองไทย ขนาด 320 มล. เพื่อแทนที่กระป๋องแบบเก่า ราคาจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป 44 บาท และจำหน่ายในซูปเปอร์สโตร์ 42 บาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ 'City Edition' ซึ่งมี 5 เมืองในประเทศไทย และ 5 เมืองในต่างประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา โคราช ภูเก็ต อัมสเตอร์ดัม ฮ่องกง มาดริด โรม และซิดนีย์ ปรากฏอยู่ที่หน้ากระป๋อง ขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว
2) Heineken : ใช้อีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งเพื่อคอนเน็คกับผู้บริโภค ในแคมเปญ "Live Your Music"
ไฮเนเก้นและดนตรีเป็นของคู่กัน เราเป็นแบรนด์ที่มี Music marketing ที่ยาวนานและแข็งแรง ซึ่ง Heineken ยังถือได้ว่าเป็นผู้นำในการคิดหา music campaign ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นมาช่วยเปิดโลกและสร้างประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่ผู้บริโภคของเราอย่างสม่ำเสมอตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ 'Open Your World' ด้วยกิจกรรมแรกคือ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสปอนเซอร์และเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเบียร์แบรนด์ ในงาน S2O - Songkran Music Festival ที่ใหญ่และแปลกใหม่ในไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งตารอคอยของคนรักปาร์ตี้ทั้งหลายทั้งในและนอกประเทศซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับ Heineken คนที่มาร่วมงาน S2O จะมีความรู้สึกตื่นเต้น และ Alive อย่างเต็มที่ รวมทั้งเตรียมการจัด Heineken Music Festival 2016 เทศกาลดนตรี EDM ครั้งใหญ่ในปีนี้
3) Tiger : สร้างความต่างอย่างโดดเด่นในตลาดเมนสตรีมด้วย Campaign Music
ไทเกอร์เป็นแบรนด์เอเชียเพียงไม่กี่แบรนด์ที่โด่งดังในระดับโลก ซึ่งสัญลักษณ์ของเสือที่อยู่ในโลโก้ของไทเกอร์คือจะมีทั้งความกล้าหาญ ดุดัน และกล้าเสี่ยงที่จะลองอะไรใหม่ๆ โดยแบรนด์สโลแกนคือ "Uncage" ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ตามกระแสสังคม เป็นตัวของตัวเอง และมีความสุขกับทุกอารมณ์
เพื่อคอนเน็คกับกลุ่ม คนรุ่นใหม่ และก้าวเข้าสู่ตลาดเมนสตรีมอย่างเต็มตัว เราได้ใช้ดนตรีเป็นสื่อในการพูดคุยกับคอนซูเมอร์ เพื่อมอบประสบการณ์ทางดนตรีที่โดดเด่นไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของไทเกอร์ ในการค้นหากลุ่มศิลปินที่มีความสามารถทั้งไทยและต่างชาติที่เราไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ให้มาเจอกับกลุ่มลูกค้าของไทเกอร์ซึ่งเป็นคนที่ชอบฟังดนตรีที่เอกลักษณ์ไม่เหมือนใครให้มาเจอะเจอกัน เพื่อสร้างสรรค์แนวทางดนตรีที่แตกต่าง
4) CHEERS : สร้างความต่างอย่างโดดเด่นในตลาดเมนสตรีม กับการปรับภาพลักษณ์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี
การปรับภาพลักษณ์ "เบียร์เชียร์ " ครั้งแรกในรอบ 10ปี ด้วยคอนเซ็ปต์ "Cheers to the World" "เชียร์ไทยไประดับโลก" ทั้งในด้านรสชาติ แพกเกจจิ้ง รวมไปถึงการมีหลากหลายรสชาติให้เลือก
แพกเกจจิ้งใหม่ของเชียร์ จะดูทันสมัยขึ้น รวมทั้งทำให้มีภาพลักษณ์ที่พรีเมียมขึ้น
มีหลากหลายรสชาติ ด้วยรสชาตินุ่มที่นุ่ม แต่ยังคงความแรงของเบียร์ระดับอินเตอร์โดยเฉพาะ "เบียร์เชียร์ เอ็กซ์ตร้า" ซึ่งมีแอลกอฮอล์ 6% ถูกใจคอเบียร์ที่ชอบรสชาตินุ่มแบบเบียร์สไตล์ยุโรปแต่ยังคงความแรง และยังได้เปิดตัวเบียร์ "เชียร์ ซีเลคชั่น ไรซ์เบอร์รี่" ใหม่ ซึ่งเป็นเบียร์เชียร์ ลิมิเต็ดเอดิชั่น สร้างสรรค์จากการผสมผสานวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอย่างมอลต์จากต่างประเทศและข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทย เพื่อให้คอเบียร์ที่มองหาความแปลกใหม่ได้ลิ้มลอง เริ่มวางจำหน่ายเฉพาะที่ 7-11 ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป
ผนึกกำลังกับไฮเนเก้น ทั้งในด้านมาตรฐานการผลิต ความรู้ความสามารถของบุคลาการ และการเลือกใช้แหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุดจากทั่วโลกตามมาตรฐานเดียวกับไฮเนเก้น นอกจากนี้ยังผลิตที่โรงงานเดียวกัน จึงได้ตามมาตรฐานการผลิตระดับโลกเช่นเดียวกับไฮเนเก้นอีกด้วย
[1] *ตัวเลขทั้งหมดเป็นตัวเลขโดยประมาณอ้างอิงจากข้อมูลจาก AC Nielsen
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit