พลเอก ประวิตร กล่าวว่า ตนมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการเป็นประธานพิธียกเสาเอกชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญและพิธีตอกเสาเข็มเขื่อนริมคลองลาดพร้าว ระยะที่ ๒ นับว่าเป็นการ Kick off ตามนโยบายเร่งด่วนรัฐบาลและ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ เพื่อจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดและปัญหาที่อยู่อาศัยการรุกล้ำแนวคลองและทางระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้ มีการรุกล้ำแนวลำคลองและเปิดทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและยั่งยืน จะเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขและความมั่นคง ทั้งนี้ จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างชาวชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อ "คืนความสุขให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง เพื่อความสุขอย่างยั่งยืน"
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) ได้ดำเนินโครงการนำร่องในพื้นที่คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและ คสช. โดยได้จัดทำแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง เป็นระยะเวลาการดำเนินงาน ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๑) ที่ยึดหลักการมีส่วนร่วมของชาวชุมชนเป็นสำคัญ และ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และเครือข่ายชุมชน ทั้งนี้ มีเป้าหมายดำเนินการในปี ๒๕๕๙– ๒๕๖๐ ในพื้นที่ คลองลาดพร้าว จำนวน ๔๑ ชุมชน ๖,๖๐๖ ครัวเรือน สำหรับชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ ๕๔ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีผู้อยู่อาศัยมายาวนานกว่า ๘๐ ปี ปัจจุบัน มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ๖๔ ครัวเรือน มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ ๒๘๙ คน บนพื้นที่กว่า ๓ ไร่ โดยได้รับสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์ ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๙ เป็นระยะเวลาการเช่า ๓๐ ปี และเป็นชุมชนนำร่องในการรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากแนวก่อสร้างเขื่อนเพื่อก่อสร้าง บ้านใหม่ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ๒๕๕๙ ซึ่งได้ดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนแล้วตั้งแต่วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๙ จำนวนกว่า ๑๐ หลังคาเรือน และจะทยอยรื้อย้ายให้ครบทั้งชุมชนภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๙ เพื่อคืนพื้นที่ให้กับสำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ต่อไป และขณะนี้ ชาวชุมชนศาลเจ้าพ่อสมบุญ ๕๔ ได้ขอใช้สินเชื่อ สร้างบ้านใหม่ในรูปแบบโครงการบ้านมั่นคงจาก พอช. ผ่านระบบสหกรณ์ที่มีเงินออมรวมกว่า ๓๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยผ่อนชำระค่าบ้านเป็นระยะเวลาประมาณ ๑๕ ปี พร้อมดอกเบี้ยคงที่ ๔% ต่อปี
"นอกจากนี้ สำหรับชุมชนอื่นที่มีความพร้อมจะเริ่มทยอยรื้อย้ายและก่อสร้างบ้านใหม่ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดย พอช. จะให้การสนับสนุนชาวชุมชนในเรื่องกระบวนการรวมกลุ่มเพื่อร่วมกันขอสินเชื่อและงบประมาณด้านสาธารณูปโภค ส่วนชุมชนอื่นที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอหรืออยู่ในแนวเขื่อนและไม่สามารถสร้างบ้านใหม่ในชุมชนเดิมได้ ทาง พอช. จะให้การสนับสนุนชาวชุมชนรวมกลุ่มเพื่อหาซื้อที่ดินแปลงใหม่ เช่น ที่ดินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ในสังกัดของกระทรวงการคลังหรือที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งในปี ๒๕๕๙ ทาง พอช. จะดำเนินโครงการบ้านมั่นคงริมคลองในคลองลาดพร้าว จำนวน ๑๗ ชุมชน ๒,๓๔๔ ครัวเรือน ส่วนชุมชนที่เหลือจะดำเนินการในปีต่อไป" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit