พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง ๑๐ ล้านคน คิดเป็นร้อยละ ๑๔.๙ ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งถือได้ว่าประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ (Aging Society) อย่างสมบูรณ์ และในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น ๒ เท่าตัว คืออยู่ที่ร้อยละ ๒๕ (ประมาณ ๑ ใน ๔) ของประชากรไทยทั้งประเทศ ดังนั้น จำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องมีการเตรียมการด้านต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุ ในนโยบายการดำเนินงานเร่งด่วน ๘ เร่งด่วน ๕ พัฒนา ๑๑ พันธกิจ ในประเด็นการเตรียมความพร้อมของประชากร เพื่อวัยสูงอายุที่มีคุณภาพ การส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ ประกอบด้วย นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ ๑) การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ โดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้สามารถรองรับผู้สูงอายุที่ได้อย่างเหมาะสม ๒) การสร้าง และขยายระบบการดูแลผู้สูงอายุทางสังคม นโยบายปฏิรูปและพัฒนา โดยการพัฒนาองค์กรและกระบวนการ ยกระดับ ขีดความสามารถของหน่วยงานในพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ และนโยบายพันธกิจ จะมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเตรียมเข้าสู่วัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในปีนี้คณะอนุกรรมการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มีมติกำหนดการจัดงานวันผู้อายุแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๙ ภายใต้แนวคิด "เดินหน้าประเทศไทยไปกับผู้สูงอายุ" โดยภายในงาน มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆมากมาย อาทิ การมอบรางวัลให้แก่ผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี ๒๕๕๙ ได้แก่ นายเสนาะ อูนากูล การขับกล่อมบทเพลงจากศิลปินแห่งชาติ "นางผ่องศรี วรนุช" การแสดงการละเล่นพื้นบ้านของผู้สูงอายุ "อีแซว" การกล่าวสุนทรพจน์โดยผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๙ การมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันกรีฑาและเปตองผู้สูงอายุไทย การมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการที่สนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ การแสดงนิทรรศการและนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้ง การถ่ายทอดภูมิปัญญาผู้สูงอายุ การประกอบอาชีพแก่ผู้สูงอายุ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ด้านกฎหมาย และกิจกรรมบริการจากหน่วยงานต่างๆ อีกมากมาย
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขอให้ความมั่นใจแก่ผู้สูงอายุว่ารัฐบาลจะผลักดันนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ ให้เกิดผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน โดยผู้สูงอายุจะได้รับการดูแล เอาใจใส่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป และขอฝากให้สังคมได้ตระหนักถึงคุณค่าและให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ โดยการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ต่อส่วนรวมและเป็นพลังในการขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาสังคม ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit