1. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 ธนาคารสามารถลด NPLs ลงมาอยู่ที่ระดับ 21,076 ล้านบาท ( คิดเป็น 23.78% ของสินเชื่อรวม ) ต่ำกว่าเป้า 22,000 ล้านบาท ที่คนร.กำหนด และลดลง 2,376 ล้านบาท จากสิ้นปี 2558 ที่มี NPLs อยู่ที่ระดับ 23,452 ล้านบาท ( คิดเป็น 27.23% ของสินเชื่อรวม ) สาเหตุเนื่องมาจากธนาคารสามารถขายลูกหนี้ให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (BAM) จำนวน 1,057 ล้านบาท และจากการดูแลป้องกันลูกหนี้ไม่ให้ตกชั้น และทำการปรับโครงสร้างหนี้ได้
2. ผลการดำเนินงานของธนาคาร อยู่ในระดับน่าพอใจ คือ มีกำไรสุทธิเดือนมีนาคม 195 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรต่อเนื่องจากปี 2558 ส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 2559 ธนาคารมีกำไรสุทธิรวม 537 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้รวม 9,962 ล้านบาท จำนวน 3,405 ราย เฉลี่ยกู้ต่อราย 2.92 ล้านบาท และการที่ธนาคารมีผลกำไรต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) เท่ากับ 14.34 %
3. การพัฒนาผู้ประกอบการ ธนาคารดำเนินการพัฒนาผู้ประกอบการต่อไปอย่างจริงจัง โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิด Co-Working Space ณ สำนักงานใหญ่ SME Bank Tower ติดสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการกลุ่ม Startup และบัดนี้จะยกระดับขึ้นมาเป็นศูนย์ Innovation Center โดยร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยศูนย์นี้จะเน้นงานด้านวิศวกรรมและไอทีที่เป็นจุดเด่นของพระจอมเกล้าลาดกระบัง นอกจากนี้ได้ขยายความ
ร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) สนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์นวัตกรรมกลุ่ม Startup จัดการแข่งขัน Contest นักศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดดำเนินการรับสมัครกลุ่มเป้าหมาย Startup เข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2559 เป็นต้นไป
4. โครงการร่วมลงทุน ธนาคารได้อนุมัติแล้ว 3 ราย เป็นกิจการ SMEs ขนาดเล็ก เกี่ยวกับเกษตรแปรรูป และในเดือนเมษายนได้ร่วมลงทุนอีก 1 ราย คือ บริษัท หมิ๋ง คอปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มซุปไก่สกัด ภายใต้แบรนด์ หมิ๋ง (Ming) ร่วมลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท และในไตรมาสสอง ยังมีกิจการ SMEs ที่เตรียมพิจารณาเข้าร่วมลงทุนอีก 7 ราย เป็นธุรกิจด้านอาหาร ด้านซอฟต์แวร์ และด้านโลจิสติกส์ โดยคาดว่าปี 2559 ธนาคารจะร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการ วงเงินประมาณ 700 ล้านบาท
5. สนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ที่เป็น Social Enterprise ในการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการและชุมชนชาวบ้านบริเวณเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ที่ธนาคารจะให้การสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อปรับปรุงการให้บริการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นไปสู่การท่องเที่ยวในระดับโลก โดยเน้นใส่ความแตกต่าง พัฒนาให้ชาวบ้านเป็นผู้ประกอบการเชิงคุณภาพ ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เกษตรอินทรีย์ รวมถึงการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวจากอันดามันมาสู่เกาะสมุย อ่าวไทย เป็นการปรับปรุงบริหารจัดการชุมชนโดยรอบ ซึ่งมีธุรกิจแพพักรองรับนักท่องเที่ยว ธุรกิจโดยสารทางเรือ เป็นต้น รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวทะเลสาบเชี่ยวหลานด้วย เพื่อให้สามารถบริหารธุรกิจแบบยั่งยืน มีความปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจท่องเที่ยว และเสริมสร้างรายได้ให้ชุมชน การสร้างอาชีพตามวิถีชีวิตของคนพื้นบ้าน และกำลังพิจารณาร่วมลงทุนในที่สุด