นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะ คอนฟิเด้นซ์ จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการคุณภาพ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 1 โครงการ ภายใต้แบรนด์เดอะทรัสต์ ใช้ชื่อว่า"เดอะทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ" เป็นคอนโด High-Rise สูง 30 ชั้น จำนวน 1,570 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ที่โดดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง โดยตั้งอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ คอนโดมิเนียมในเมือง วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดสถานีรถไฟฟ้า, จุดขึ้น-ลงทางด่วน สุขุมวิท-สมุทรปราการ (ทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์) สะดวกสบายในการเดินทางไปยังทุกจุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร, โลตัส ศรีนครินทร์, บิ๊กซี สำโรง, บิ๊กซี สมุทรปราการ ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน, สวนพักผ่อนร่มรื่น ในด้านระบบรักษาความปลอดภัยมีการเข้า-ออกโครงการ รวมถึงชั้นพักอาศัยด้วย Key Card พร้อมกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ช.ม. ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท โครงการเดอะทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดในปีนี้ภายใต้แบรนด์เดอะทรัสต์ โดยเริ่มเปิดพรีเซลล์ไปเมื่อต้นปี 2558 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในช่วงที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยศักยภาพของทำเลที่มีความสะดวกในการอยู่อาศัย ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น ปัจจุบันแบรนด์เดอะทรัสต์ มีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมขายที่ตั้งอยู่ในแนวรถไฟฟ้าจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ เดอะทรัสต์ คอนโด งามวงศ์วาน และเดอะทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ ซึ่งเดอะทรัสต์ คอนโด แอท บีทีเอส เอราวัณ เป็นโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย สถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2561
ในด้านภาพรวมของพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ในขณะนี้มีการขยับขยายเส้นทาง รวมทั้งมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า BTSส่วนต่อขยายสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ อยู่ระหว่างก่อสร้างในปัจจุบัน มีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตามกำหนดในปี 2561 โดยมีระยะทางรวม 25 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้าสมิงพราย, สถานีเอราวัณ, สถานีโรงเรียนนายเรือ, สถานีสมุทรปราการ, สถานีศรีนครินทร์, สถานีแพรกษา, สถานีสายลวด และสถานีเคหะสมุทรปราการ
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ในช่วงปี 2557-2558 มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กของผู้ประกอบการรายย่อยหรือโครงการขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณ 3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย คือ สถานีสำโรง, สถานีปู่เจ้าสมิงพราย และสถานีเอราวัณ ถือเป็น 3 สถานีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเส้นทางนี้
แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2558 มีจะปัจจัยลบจากหลายๆ ส่วน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง ปัญหาเรื่องการส่งออก หรือปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็จะมีปัจจัยบวกเข้ามาจากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ในเรื่องของการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประกาศใช้เป็นระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การจำนองอสังหาริมทรัพย์ และห้องชุด จากเดิมร้อยละ 2 ของราคาประเมินทุนทรัพย์ในกรณีการโอน และร้อยละ 1ของมูลค่าที่จำนอง แต่ไม่เกิน 200,000บาท ในกรณีการจำนองฯ เหลือร้อยละ 0.01 เป็นเวลา 6 เดือน ทั้งในส่วนบ้านใหม่และบ้านมือสอง นอกจากนี้สำหรับคนที่กู้ซื้อบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาท นำวงเงิน 20% ของมูลค่าบ้าน มาหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ในช่วง 5 ปีภาษี และให้ลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% เป็นการถาวร มาตรการที่ออกมานี้จะช่วยลดภาระให้กับผู้มีรายได้น้อยโดยตรงและจะสามารถช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯ ให้เติบโตได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับในปี 2558 บริษัท เดอะ คอนฟิเด้นซ์ จำกัด ตั้งเป้าขายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น คอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 3,100 ล้านบาท และแนวราบทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 3,900 ล้านบาท และเป้าโอนตั้งไว้ที่ 6,300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น คอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 2,700 ล้านบาท และแนวราบทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีทำยอดขายไปแล้ว 77% และยอดโอน 71% โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดขายและยอดโอนได้ตามเป้าที่ตั้งไว้