พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินการด้านป่าชุมชน ได้มีการขยายและเพิ่มโอกาสให้ชุมชนร่วมจัดตั้งป่าชุมชนมากยิ่งขึ้น ดังเห็นได้จาก ปัจจุบันมีการจัดตั้งป่าชุมชน จำนวน 9,470 หมู่บ้าน รวมพื้นที่ป่าชุมชน จำนวน 4,067,128 ไร่ และเมื่อเทียบข้อมูลการจัดตั้งป่าชุมชนที่ผ่านมาในอดีต เทียบกับปี พ.ศ.2551 ถึงปัจจุบัน มีการจัดตั้งป่าชุมชน เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ กล่าวคือ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2551 ถึงปัจจุบัน ได้มีการจัดตั้งมากกว่า จำนวน 3,534 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ป่าชุมชน จำนวน 1,956,549 ไร่ อันเป็นผลสืบเนื่องจากการได้รับการสนับสนุนการดำเนินการจากบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ตามโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา
ด้านนายรัมย์ เหราบัตย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และกรมป่าไม้ซึ่งได้เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551 และถือเป็นโครงการหลักด้านความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR ของบริษัทฯ ซึ่งตอบสนองเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด "คนอยู่ดี ธรรมชาติอยู่ได้" ซึ่งหมายถึงการอยู่ร่วมอย่างเกื้อกูลกันระหว่างคนกับธรรมชาติ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของชุมชน และเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และที่สำคัญคือเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทางธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ ช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี การดำเนินงานโครงการในปี 2558 ที่ผ่านมา นับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจยิ่ง ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนคือป่าชุมชนจดทะเบียนที่สมัครเข้าร่วมโครงการของเรามีจำนวนถึง 1,204 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างมาก แสดงถึงความตระหนักและตื่นตัวในเรื่องการดูแลรักษาป่าไม้ของชุมชน สามารถขยายผลเพื่อให้สังคมได้รับรู้และเข้าใจแนวคิดของป่าชุมชนมากขึ้น เกิดความตระหนักในความสำคัญและคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ผลการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง โครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ประจำปี 2558 มีป่าชุมชนที่ได้รับรางวัล รวม 137 ป่าชุมชน ดังนี้
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ 2558 ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านต่อแพ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน 200,000 บาท
รางวัลป่าชุมชนรองชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ 2558 ได้แก่ ป่าชุมชนสวนสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ หมู่ที่ 2,3,5,7 ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ป่าชุมชนบ้านตะเกราทอง หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านแลง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง และ ป่าชุมชนบ้านหัวบึง หมู่ที่ 9 ตำบลทรายมูล อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น รับถ้วยรางวัล และเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน รางวัลละ 100,000 บาท
รางวัลป่าชุมชนดีเด่นด้าน "เยาวชนคนรักษ์ป่า" ประจำปี 2558 ได้แก่ ป่าชุมชนโนนใหญ่ หมู่ที่ 3 ตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ รับถ้วยรางวัล และเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน 100,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศ ป่าชุมชนดีเด่นด้าน "เยาวชนคนรักษ์ป่า" ประจำปี 2558 ได้แก่ ป่าชุมชนบ้านปางงุ้น หมู่ 6 ตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ป่าชุมชนบ้านพุตูม หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยลึก อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี และ ป่าชุมชนบ้านต้นตาล หมู่ที่ 2 ตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส รับถ้วยรางวัล และเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน 25,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลป่าชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด จำนวน 65 รางวัล จะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชนแห่งละ 25,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 64 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินกองทุนการอนุรักษ์ป่าชุมชนแห่งละ 10,000 บาท
ภายใต้โครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของชุมชนเพื่อสร้างความพร้อมในการดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย การจัดสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน ปีละ 2 ครั้ง และการจัดค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม ปีละ 2 ครั้ง โดยจะจัดหมุนเวียนไปในแต่ละภาค เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ สำหรับปีนี้ ได้จัดสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชนภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจัดค่ายเยาวชนกล้ายิ้มภาคเหนือและภาคกลาง