นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 8 จังหวัด ได้แก่ ระยอง นครนายก ปราจีนบุรี อุบลราชธานี กำแพงเพชร ปทุมธานี นครสวรรค์ และพิจิตร รวม 17 อำเภอ โดยจังหวัดระยอง มีน้ำท่วมขังใน 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดนครนายก น้ำจากแม่น้ำนครนายกล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบประมาณ 120 หลังคาเรือน จังหวัดปราจีนบุรี น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ์ และอำเภอบ้านสร้าง รวม 15 ตำบล 2 เทศบาล 40 หมู่บ้าน 5 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 469 หลังคาเรือน จังหวัดอุบลราชธานี น้ำจากแม่น้ำมูลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนวังแดง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดกำแพงเพชร เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอคลองขลุง และอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดปทุมธานีมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดนครสวรรค์ น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่วงก์อำเภอลาดยาว และอำเภอเมืองนครสวรรค์ ขณะที่อำเภอบรรพตพิสัย ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร น้ำจากจังหวัดกำแพงเพชรไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรในอำเภอบึงนาราง ซึ่งสถานการณ์โดยรวม ทั้ง 8 จังหวัด ไม่มีฝนตก ในพื้นที่ ระดับน้ำลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนเล็กน้อย ยกเว้นภาคใต้จะมีภาวะฝนตกหนักบางแห่ง ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียม ชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th