จิตรา ก่อนันทเกียรติ ผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีจีน ให้ความรู้ถึงหลักของการกินเจที่ถูกต้องว่า "การกินเจเป็นเคล็ดลับการล้างพิษของจีนโบราณ ด้วยการให้ร่างกายได้พักกระเพาะอาหารจากเนื้อสัตว์และอาหารที่ย่อยยาก กินแต่พืชผัก จะได้ชำระร่างกายให้สะอาด จากการที่การแพทย์จีนโบราณพบว่าสัตว์ก่อนที่จะถูกฆ่าตายมาเป็นอาหาร มันเกิดความเครียดจากการรักตัวกลัวตายตามสัญชาตญาณ ความเครียดนี้ทำให้เกิดการหลั่งสารพิษกระจายไปตามกระแสโลหิต การกินเนื้อสัตว์จึงเป็นการกินสารพิษจากสัตว์สะสมไปเรื่อยๆ การกินเจ 10วัน จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ชำระกายชำระใจ คือ ไม่เอาเลือดเนื้อผู้อื่นมากิน รวมถึงร่างกายได้ล้างพิษด้วย แต่ในช่วงที่ร่างกายขาดโปรตีนจากสัตว์ ก็เป็นช่วงที่ต้องงดผักกลิ่นฉุน 5 อย่าง เพราะอาจมีผลกระทบต่อธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย โดยการกินกระเทียมมีผลต่อธาตุไฟ อาจทำให้การทำงานของหัวใจไม่เป็นปกติ การกินหัวหอม,ต้นหอมมีผลต่อธาตุน้ำ อาจทำให้การทำงานของไตไม่เป็นปกติ การกินกุยช่ายมีผลต่อธาตุไม้ อาจทำให้การทำงานของตับไม่เป็นปกติ การกินหลักเกียว (คล้ายกระเทียมแต่เล็กกว่า ซึ่งเมืองไทยไม่มี) มีผลต่อธาตุดิน อาจทำให้ม้ามทำงานไม่เป็นปกติ และการบริโภคใบยาสูบมีผลต่อธาตุทอง อาจทำให้การทำงานของปอดไม่เป็นปกติ"
"หลักการกินเจที่แท้จริง นอกจากจะกินอย่างไม่เบียดเบียนผู้อื่น คือ ไม่ทานเนื้อสัตว์แล้ว ต้องกินอย่างไม่เบียดเบียนตนเอง หมายความว่าต้องกินอาหารที่ไม่ไปทำลายสุขภาพร่างกาย คือไม่ทานผักกลิ่นฉุน 5 อย่าง และการกินเจที่ถูกต้อง ต้องกินอาหารที่มีรสชาติสะอาด ถือเป็นการปฏิบัติกายที่ควรทำควบคู่ไปกับการปฏิบัติใจ กล่าวคือคิดดีทำดี มีการถือศีล แล้วปฏิบัติบูชา หมายถึง ไปไหว้ที่ศาลเจ้าที่จัดไหว้เทศกาลกินเจ นี่คือการเสริมดวงด้วยการกินเจที่ครบถ้วน อาจก่อเกิดเป็นโชคลาภหรือตัวช่วยเสริมดวงชะตา ซึ่งศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย คือ ศาลเจ้าซิ่วฮกตั้ว ตั้งอยู่ที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ.2325 มีอายุ 233 ปี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี แห่งที่ 2 คือ ศาลเจ้ากะทู้ เป็นศาลเจ้าที่สร้างโดยคณะงิ้วจีนเพื่อการกินเจแห่งแรกใน จ.ภูเก็ต และศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงาฯลฯ ซึ่งตรงนี้สะท้อนว่าเทศกาลกินเจนี้เก่าแก่ปฏิบัติกันมายาวนาน ยึดถือการปฏิบัติกาย ปฏิบัติใจ และปฏิบัติบูชา คือ การถือศีลกินเจควบคู่กัน แต่หากใครไม่สะดวกไปไหว้ ไม่สะดวกถือศีล แค่ได้กินเจก็ยังดี ถ้าไม่สะดวกกินทั้ง 9-10 วันได้กินบ้างเป็นบางมื้อ หรือกินสัก 3 มื้อ 5 มื้อ หรือ 7 มื้อก็ยังดี"
"สำหรับข้อแนะนำในการทานเจเพื่อล้างพิษหรือปรับสมดุลให้ร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงของทอด ของมัน และของเผ็ด รวมถึงของเทียมเจอย่างหมี่กึงที่ทำจากแป้งสาลีนวดจนเหนียวมาก หรือโปรตีนเกษตร ซึ่งเมื่อทานมากๆ จะดูดน้ำในกระเพาะอาหาร อาจทำให้ท้องผูกได้ ส่วนเมนูอาหารเจที่คนไทยชอบทานก็มีหลากหลาย แต่ที่นิยมกันมาก จะเป็นเมนูที่ทำจากเต้าหู้ ผัดหมี่เจ ผักสดต่างๆ ซึ่งสามารถดัดแปลงให้น่าทานได้ ดังเช่นที่ร้านซิซซ์เล่อร์ได้รังสรรค์ขึ้นสำหรับช่วงเทศกาลเจ ทุกเมนูดูแล้วเข้าข่ายเป็นการกิน GREEN กิน CLEAN ที่กำลังเป็นกระแสความนิยมของคนรุ่นใหม่ เช่น เมนู "สเต็กเต้าหู้เจ" (Grilled Tofu Steak) เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมผักย่างได้แก่ ข้าวโพด ซูกินี่ พริกยักษ์ และเพิ่มรสชาติด้วย Soya Sesami Dressing สูตรลับพิเศษเฉพาะของซิซซ์เล่อร์
เป็นอาหารจานหลักสุดคุ้ม เพราะสามารถทานคู่กับสลัดบาร์เจ และเต้าหู้ยังเป็นโปรตีนจากพืชที่ให้คุณประโยชน์สูงต่อร่างกาย รวมถึงผักโขมที่มีในสลัดบาร์ด้วย และในสลัดบาร์เองก็ยังมีเมนูที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการทานเพื่อล้างพิษ ที่อยากแนะนำ คือ "ผัดหมี่เจ" (J Chinese Noodle Salad) ซึ่งเป็นเมนูเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ในช่วงเทศกาลเจ นำมาปรุงแต่งให้เป็นเมนูเจพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยมีส่วนผสมของหมี่ซั่ว กะหล่ำปลี แครอท น้ำส้มสายชู ซอสปรุงรส พร้อมพริกป่นเพื่อให้มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีเมนู "สลัดผักย่างพร้อมน้ำสลัดสูตรพิเศษ" (Roasted Vegetable & Honey Soy Salad) โดยมีส่วนผสมของผักต่างๆ ได้แก่ ผักฟิเลซ์ ฟักทอง แครอท ข้าวโพดอ่อน มันฝรั่ง พริกยักษ์ที่นำไปย่างให้สุกเล็กน้อย แล้วมาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับซอสน้ำผึ้ง และสุดท้าย "ซุปใสแบบเจ" (J Vegetable Soup) มีส่วนประกอบของมันฝรั่ง แครอท เห็ดหอม กะหล่ำปลี และเต้าหู้ ซึ่งเหล่านี้ เป็นอาหารเจที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้น ช่วงเทศกาลเจนี้จึงอยากเชิญชวนใครที่ไม่เคยกินเจได้ลองกินเจที่ซิซซ์เลอร์ ส่วนใครที่กินเจเป็นประจำอยู่แล้วก็ขอให้กินเจอย่างสุขเพื่อสุข เพราะทำให้เราอิ่มบุญที่ได้สร้างทั้งกุศล และสร้างเสริมสุขภาพกายสุขภาพใจที่สบายจากการได้บุญ เป็นการเสริมดวงเพื่อให้โชคดีและอายุยืนค่ะ"
เชิญอร่อยสุขใจได้บุญกับเมนูอาหารเจสุดพิเศษจากซิซซ์เล่อร์นี้ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 21 ตุลาคมศกนี้ ณ ร้านซิซซ์เล่อร์ทุกสาขา ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.sizzler.co.thหรือติดตามได้ที่ www.facebook.com/SizzlerThai
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit