ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 3 จังหวัด พร้อมรับมือภาวะฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้

16 Oct 2015
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขัง จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังใน 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี นครนายก และนครสวรรค์ ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมมือกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี นครนายก และนครสวรรค์ รวม 7 อำเภอ โดยจังหวัดปราจีนบุรี น้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอศรีมหาโพธิ์ และอำเภอบ้านสร้าง รวม 15 ตำบล 2 เทศบาล 40 หมู่บ้าน 5 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 469 หลังคาเรือน จังหวัดนครนายก น้ำจากแม่น้ำนครนายกล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบ้านนา บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 50 หลังคาเรือน จังหวัดนครสวรรค์ น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลาดยาว และอำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยรวม ทั้ง 3 จังหวัด ไม่มีฝนตกในพื้นที่ ระดับน้ำลดลง จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือยังคงพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th