นพ.อนุชา ได้กล่าวถึงแนวทางการหลีกทางให้รถพยาบาลโดยระบุว่าในสากลนั้นจะปฏิบัติดังนี้ 1.เมื่อประชาชนเห็นสัญญาณไฟและได้ยินเสียงสัญญาณไซเรนก็มักจะตกใจและทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นผู้ขับขี่ควรตั้งสติ 2.พยายามมองกระจกหลังเพื่อกะระยะของรถพยาบาลที่วิ่งมา3.เมื่อพิจารณาปริมาณรถทั้งซ้ายและขวาที่อยู่ใกล้แล้วพบว่าไม่มีอันตรายและเราสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถและเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที 4.หากไม่สามารถหลีกทางได้ด้วยเพราะสภาพรถที่หนาแน่นและมีอันตรายก็ให้หยุดหรือชะลอรถเพื่อให้รถพยาบาลหาทางวิ่งผ่านเราไปให้ได้ 5.เมื่อรถพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามเด็ดขาด 6.กรณีรถติดและรถพยาบาลอยู่ด้านหลังพอดีให้พิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวาดี ถ้าไม่มีใครหลีกทางให้ให้ผู้ขับขี่เลือกว่าจะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาล ได้แซงผ่านไปได้สะดวก
"ผมอยากให้คนไทยทุกคนตระหนักว่าการหลีกทางให้รถพยาบาลนั้นเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องทำโดยอัตโนมัติหากเราได้ยินรถพยาบาลส่งสัญญาณมา เพราะการขยับรถเพื่อหลีกทางให้กับรถพยาบาลนั้นจะช่วยต่อชีวิต ต่อลมหายใจให้ทั้งผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย เพราะเราไม่มีทางแน่ใจได้เลยว่าคนที่อยู่บนรถพยาบาลในวันหนึ่งนั้นอาจเป็นญาติพี่น้องของเราที่กำลังต้องการความช่วยเหลือก็ได้ ดังนั้นผมขอเถอะนะครับ ถ้าเราเห็นหรือได้ยินรถพยาบาลส่งสัญญาณไฟหรือสัญญาณเสียงขอทางมา ก็ขอให้ช่วยกันหลีกทางให้กับเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างทันท่วงทีเหมือนที่น้องออยได้ทำให้พวกเราเห็นเป็นตัวอย่างในครั้งนี้ด้วย"เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)กล่าว