"กับเรื่องของการทำศัลยกรรมนั้นยอมรับว่าเป็นคนที่ชอบการทำศัลยกรรมแต่ไม่ถึงขั้นเสพติด ความจริงแล้วน๊อตคิดว่าทุกคนก็อยากที่จะให้ตัวเองดูดี ดูสวย ดังนั้นเมื่ออยากให้ตัวเองดูดีก็คงต้องมีตัวช่วยในเรื่องของการทำศัลยกรรม สำหรับน๊อตแล้วการทำศัลยกรรมครั้งแรกตอนอายุ 22 ปีเริ่มจากการทำจมูก ซึ่งการทำจมูกสมัยก่อนก็ไม่เหมือนกันปัจจุบันนี้ที่มีเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยจนตอนนี้จมูกก็ทำมาทั้งหมด 3 ครั้งจากนั้นก็มาทำตาต่อจนเป็นที่พอใจได้สักพัก ก็มีความคิดอยากที่จะไปทำซิกแพคก็เลยไปปรึกษาคุณหมอทางคุณหมอก็แนะนำว่าให้เปลี่ยนหน้าดีกว่ามัย ก็เลยโละหน้า ความจริงแล้วอย่าเรียกโละให้เรียกว่าทุบหน้าใหม่เลยดีกว่า เริ่มจากการดึงหน้าผากขึ้นเพราะเป็นคนตาตกก็เลยดึงหน้าด้วยการผ่ากระโหลกแล้วดึงหน้าผากขึ้นไป จากนั้นก็เปลี่ยนจมูกใหม่เพื่อให้เข้ากับหน้าตัวเอง โดยการไปทำหน้าครั้งนี้ก้ได้บอกกับคุณหมอว่า อยากได้กรามเหมือนกับณเดช จมูกเหมือนกับมาริโอ ส่วนตาเหมือนกับชมพู อารยา ซึ่งคุณหมอก็ทำให้ตามที่เราต้องการ พร้อมกับเย็บปากขึ้นเพราะเป็นคนปากตกดูเหมือนหน้าบึ้งเลยเย็บปากขึ้นเพื่อให้ดูเหมือนยิ้มขึ้น โดยการทำศัลยกรรมทั้งหน้านี้หมดเงินไปทั้งหมดประมาณ 3 แสนเจ็ดหมื่นบาทแต่ก็ถือว่าได้อย่างที่เราต้องการทุกอย่าง"
"เรื่องการตัดสินใจทำซิกแพคนั้นความจริงแล้วน๊อตทำงานวงการนายแบบนางแบบมานานก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากหุ่นดี อยากมีซิกแพคบ้าง แต่ด้วยเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย ก็เลยไปปรึกษากับคุณหมอเรื่องการทำซิกแพค ซึ่งเรื่องของการทำซซิกแพคนั้นความจริงแล้วในเมืองไทยก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพียงแต่น๊อตเป็นเหมือนกับคนที่ออกมาพูดมาบอกก้เลยทำให้คนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกของการทำศัลยกรรม ความจริงแล้วหมอเมืองไทยทำได้แล้ว ไม่ต้องบินไปทำถึงเกาหลีแล้ว สำหรับวิธีขั้นตอนการทำนั้นก็จะมีขั้นตอนของการผ่าตัดตรวจสิ่งต่างๆทั่วไป จากนั้นก็จะเป็นการดูดไขมันของเราออกมาเพื่อที่จะมาปั่นให้ละเอียดเพื่อให้เหมือนกับของเลวจากนั้นก็จะฉีดเข้าไปในร่างกายของเราเพื่อให้ร่างกายมันได้รูปตามกล้ามเนื้อของเราเอง และระหว่างที่ทำซิกแพคก็ทำแขนให้เป็นกล้าม ทำบ่า ทำหลังต่างๆ แบบครบหมดเลย ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัดประมาณ 6 ชม.ถามว่าเจ็บมัยก็เจ็บแต่เมื่อออกมาแล้วก็รู้สึกสมใจกับสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ส่วนเรื่องการดูแลซิกแพคนั้นก็ต้องมั่นออกกำลังกายช่วยด้วยเพราะถ้าทำมาแล้วไม่มีการออกกำลังกายเลยซิกแพคที่ทำมาก็จะหายไปเหมือนกัน แต่ถ้าเราดูแลออกกำลังกายก็จะอยู่ไปแถมยังมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย สำหรับการทำซิกแพคก็ประมาณ 4 แสนบาทแต่สำหรับเราแล้วถือว่าคุ้มกับสิ่งที่เราได้มา"
น๊อต กฤติณ กล่าวเพิ่มว่า "กับเรื่องการทำศัลยกรรมทั้งหมดนี้ถามว่ากลัวมัย ยอมรับว่ากลัวเหมือนกันโดยเฉพาะตอนที่เรานอนบนเตียงแล้วถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด เห็นไฟในห้องผ่าตัด มันเหมือนกับชีวิตของเรากำลังจะตาย แต่เมื่อเราตัดสินใจที่จะทำแล้วทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา ถ้าใจเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำถูกต้องและไม่กลัวก็ต้องเดินหน้าศรัทธาในตัวเอง"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit