รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ศน. ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบกรณีที่ ครม.เห็นชอบหลักการการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ (ฉบับที่..) พ.ศ..... เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อโอนกิจการฮัจย์ของกองส่งเสริมกิจการฮัจย์ ศน. ไปยังกองส่งเสริมกิจการฮัจย์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (มท.) เนื่องจาก วธ. ไม่มีบุคคลากรและหน่วยงานในพื้นที่ระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ทำให้การดำเนินกิจการฮัจย์เข้าถึงประชาชนยังไม่รวดเร็วและ ไม่สะดวก จึงปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานและส่วนราชการที่กำกับดูแลและบริหารกิจการฮัจย์จากเดิมเป็น ศน. เป็นกรมการปกครอง เพื่อให้การดำเนินงานของกิจการฮัจย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์แก่พี่น้องชาวมุสลิมมากที่สุด
"อย่างไรก็ตามแม้กิจการฮัจย์จะโอนจาก ศน. ไปกรมการปกครองแล้ว วธ.ยังคงส่งเสริมการประกอบกิจการฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะ ศน.ยังต้องทำหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุน 5 ศาสนาเช่นเดิม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกศาสนามีโอกาสเข้าถึงพิธีกรรมทางศาสนาที่ตนนับถืออย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้เพื่อให้การดำเนินงานกิจการฮัจย์ในเรื่องต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีความเป็นธรรม โปร่งใส รวมทั้งผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากบุคคลผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมจึงมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อร่วมพิจารณาเรื่องต่างๆ โดยมีอธิบดี ศน. เป็นประธาน 3 คณะ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการสรุปผลการดำเนินงานกิจการฮัจย์ ประจำปี 2558 เพื่อรวบรวมและจัดทำรายงานผลกิจการฮัจย์ ปี 2558 2.คณะอนุกรรมการเตรียมการกิจการฮัจย์ ประจำปี 2559 (ฮ.ศ.1437) จัดทำแผนกำหนดรายละเอียดกิจกรรมและรอบระยะเวลาการดำเนินงานกิจการฮัจย์ประจำปี 2559 และ 3.คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์กิจการฮัจย์ เพื่อกำหนดแนวทางการประชาสัมพันธ์กิจการฮัจย์" นายวีระ กล่าว