เจแอนด์พีชี้เครื่องหนังชายยังรุ่ง GianFerranteอวด Merano Collection รับกำลังซื้อท้ายปี

05 Nov 2015
"เจแอนด์พี อินเตอร์เทรด" ย้ำจุดยืน High Quality Handmade ผ่าน 40 ปีแห่งประสบการณ์ อวดศักดาสินค้าไทย สร้างแบรนด์ GianFerranteสู่สากล พร้อมเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ "Merano Collection" ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังเกรดพรีเมี่ยม สัมผัสนิ่ม ดีไซน์เก๋ไก๋ คงทน ทันสมัย ตอบรับการใช้งานยุคดิจิตอล เผยหนุ่มไทยยังจ่าย กำลังซื้อท้ายปีเริ่มคึกคัก

นายศุภทัตเบ็ญญาสารกรรมการผู้จัดการบริษัท เจแอนด์พี อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเจแอนด์พี อินเตอร์เทรด จำกัด บริษัทผู้ผลิตและเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกระเป๋าหนังและเป็นที่นิยมและรู้จักมานานกว่า40ปีในเมืองไทย จนทำให้ผลิตภัณฑ์และผลงานของบริษัท เจแอนด์พี อินเตอร์เทรด จำกัดยังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ จนทำให้ต่างประเทศมาสั่งผลิตโดยฝีมือคนไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ดังในต่างประเทศ โดยปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์ GianFerrante (เจียน เฟอ เรนเต้)ซึ่งจำหน่ายมายาวนานถึง40ปีเช่นกัน

ล่าสุด เครื่องหนังGianFerranteได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ "Merano Collection" สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากหนังวัวชั้นดี เป็นหนังลูกวัวแท้เกรดเอ คุณสมบัติเด่นจากผิวสัมผัสที่นิ่มให้ความรู้สึกดีในการใช้งาน ส่วน Design เป็น Casual แต่ให้ความสำคัญกับการตัดเย็บแบบปราณีต มีสินค้าครบไลน์ ตั้งแต่เป้สะพาย กระเป๋าคาดอก กระเป๋าคลัทซ์ รวมไปถึงกระเป๋าชิ้นเล็ก เช่น กระเป๋าสตางค์ พวงกุญแจ ฯลฯ

"MeranoCollection" สีน้ำตาลเป็นกระเป๋าที่ให้ลุคแบบลำลองแต่ยังคงเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ มีทั้งกระเป๋าสตางค์กระเป๋าใส่เหรียญกระเป๋าใส่การ์ดและกระเป๋าห้อยเข็มขัด ใช้วัสดุหนังลูกวัวที่ให้ความนุ่มแต่อยู่ทรงมาพร้อมอะไหล่สีเงินคู่กับหนังสีน้ำตาลอ่อนที่เป็นวัสดุหลักตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มด้วยฝีมือการออกแบบแบบอันเป็นเอกลักษณ์จากYOUNG DESIGNER จึงทำให้Meranoเป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่มีมิติ สวยงาม คงทน ทันสมัย ตอบสนองการใช้งานจริงราคาเริ่มต้นที่ 1,550-11,500 บาท

กระเป๋า GianFerrante "Merano Collection"จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสไตล์ลำลองหรือCasualตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของหนุ่มรุ่นใหม่ที่เลือกใช้กระเป๋าหนังคุณภาพดี ดีไซน์เนี้ยบสอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวันการออกแบบจึงคำนึงถึงสิ่งที่ใช้ในในชีวิตประจำวันของคนปัจจุบัน อาทิโทรศัพท์Tablet และอุปกรณ์ IT ต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับการจัดเก็บเป็นระเบียบและหยิบใช้ง่ายเครื่องหนัง GianFerrante วางจำหน่ายในเคาท์เตอร์ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพ 23 สาขา และต่างจังหวัดทั้งหมด 9 สาขาอาทิ คิงพาวเวอร์ ดิวตี้ฟรีทุกสาขา, เซ็นทรัล,เซ็น,เดอะมอลล์, สยามพารากอน,ดิ เอ็มโพเรียม, โตคิว และอิเซตัน เผยยอดขาย Q3 ยังไปได้สวย

นายศุภทัต กล่าวว่า แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้อาจจะอาจจะมีการชะลอตัว แต่ยอดขายของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 10 % เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคนทำงานและคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยไตรมาสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลอง คาดว่าการจับจ่ายจะคึกคักขึ้น โดยบริษัทฯจะมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆรวมทั้งจะมีแผนการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในต้นปีหน้า

"ปัจจุบันผู้ชายไทยยุคใหม่มีการเลือกซื้อสินค้าประเภทกระเป๋าแบบไม่จำกัด จากเดิมที่เคยซื้อ 1 ครั้งแล้วใช้งานจนเก่า มาเป็นการซื้อตามความพึงพอใจหากพบกับดีไซน์ถูกใจ หนังดี ตัดเย็บดี ก็มีตัดสินใจซื้อได้เรื่อยๆจึงนับเป็นโอกาสสำหรับตลาดเครื่องหนังสำหรับผู้ชาย ซึ่งเรามีประสบการณ์ และความชำนาญ จากการผลิตและสร้างสรรค์ผลงานให้กับแบรนด์ตัวเองและแบรนด์ต่างประเทศมานานถึง 40 ปี"อัดงบตลาด 10 ล้านผ่านสื่อครบไลน์

ด้านกิจกรรมทางการตลาดส่วนของตลาดในประเทศไทยจะใช้งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้าน เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดครบทุกสื่อที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ การประชาสัมพันธ์โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ Social Media เป็นต้น รวมทั้งมีการทำกิจกรรมร่วมกับพันธมิตร เช่น ร่วมสนับสนุนการจัดแฟชั่นโชว์กับห้างสรรพสินค้า หรือการทำกิจกรรมผ่านสื่อต่างๆ ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับทางห้างสรรพสินค้าในเทศกาลต่างๆ รวมทั้งการเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ ก็จะมีการจัดงาน Launch New Product เพื่อสร้างสีสันและการรับรู้ไปยังลูกค้า

นอกจากนั้น บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการอบรมพัฒนาบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานขายที่เป็นตัวแทนในการสื่อสารแบรนด์โดยตรงไปยังลูกค้า นอกเหนือจากการอบรมพื้นฐานแล้ว กลุ่มพนักงานขายยังมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในตัวสินค้าเป็นอย่างดี จึงมีการอบรม Product Knowledge ในแต่ละคอลเล็คชั่นอย่างต่อเนื่องลุยต่างประเทศอวดศักดาสินค้าไทย

สำหรับการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันได้เริ่มต้นทำตลาดใน 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น อังกฤษ รัสเซีย ส่วนกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางมีการนำสินค้าไปวางจำหน่าย ซึ่งตลาดต่างประเทศให้ความสนใจกับสินค้าจากทางบริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ปราณีตและสวยงาม โดยมีคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้จัดทำโบชัวร์ภาษาต่างๆเพื่อใช้เป็นข้อมูลสินค้าและการส่งเสริมการขายในประเทศนั้นๆด้วยและในอนาคตยังมีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม AEC ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตอีกด้วย

นายศุภทัตกล่าวว่า เส้นทางการดำเนินธุรกิจในอีก 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทฯจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยมุ่งหวังที่จะทำให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและผงาดในตลาดสากล "กลยุทธ์ในการบริหารงานของเรา จะให้ความสำคัญตั้งแต่ตัวสินค้า โดยจะชูสินค้าที่มีดีไซน์เด่น เหมาะกับความต้องการของลูกค้า เน้นวัตถุดิบและการตัดเย็บที่มีคุณภาพสูง เป็น High Quality Handmade ซื้อ 1 ใบแต่ใช้ได้นาน ถ้าจะซื้อใบใหม่ก็ต้องแบบใหม่ เราจะพัฒนาสินค้าไปกับพฤติกรรมผู้บริโภค และโลกปัจจุบัน เพื่อตอบรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เลือกสินด้าดี เหมาะสมกับราคาที่ซื้อ และใช้ได้หลากหลาย" นายศุภทัต กล่าวในตอนท้าย?