นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า การแข่งขันสเตจแรกใช้เส้นทางหนองคาย –บึงกาฬ ภายใต้คอนเซปเปิดตำนานลุ่มแม่น้ำโขง ระยะทาง 115.3 กิโลเมตร ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ มีนักแข่งเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 498 คน โดยมีนักปั่นต่างชาติกว่า 40 คน จาก 17 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมันนี สหรัฐฯ อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส สิงคโปร์ เกาหลี มาเลเซีย และลาว ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เป็นการตอบโจทย์ กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวไทย และเป็นการยกระดับการแข่งขันจักรยานสู่นานาชาติ โดยเฉพาะการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากการแข่งขันกีฬาแล้ว เรายังได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะเส้นทางเลียบริมน้ำโขง 4 จังหวัด เป็นการผสมผสานเส้นทางท้าทายนักปั่น ทั้งทางโค้ง ทางเรียบ ทางชัน แต่สิ่งสำคัญ คือการสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาน รวมถึงเรียนรู้สัมผัสทำเนียบประเพณีวัฒนธรรม
"นอกจากผลแพ้ ชนะแล้ว สิ่งที่นักปั่นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะได้รับคือ การมีสุขภาพแข็งแรงและสัมผัสวิถีชีวิตของคนทั้ง 4 จังหวัด ที่มีสวยงาม มีเอกลักษณ์ เฉพาะถิ่น โดยมีประชาชนใน 4 จังหวัด คอยสร้างความประทับใจ เสมือนเป็นทูตการแข่งขันในครั้งนี้ เพื่อให้นักแข่งจากต่างถิ่นและต่างชาดติทุกคนได้นำความประทับใจ กลับไปบอกกล่าวกับนักแข่งและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก" นางกอบกาญจน์ กล่าว
นางกอบกาญจน์ ยังมั่นใจว่า การแข่งขันครั้งนี้ จะสามารถต่อยอดเป็นมหกรรมการแข่งขันจักรยานในอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยกระทรวงจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจเส้นทางในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงการต่อยอดในระดับนานาชาติในอนาคต โดยผลที่ได้รับมากกว่ากีฬา คือเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวสู่ท้องถิ่น ซึ่งช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับกลุ่มจังหวัดเหล่านี้ ร้อยละ 15-20 ทั้งนี้ เมื่อสามารถเปิดเส้นทางปั่นจักรยานที่มีความงดงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลกำลังจะต่อยอด คือ ผลิตภัณฑ์โอทอป ที่จะนำมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
สำหรับผลการแข่งขันในสเตจแรก เส้นทางหนองคาย – บึงกาฬ ระยะทาง 115.3 กม. ประเภทเสือหมอบ โอเพ่น ชาย เป็นของนายศราวุธ ศิริรณชัย ทำเวลาไป 3 ชั่วโมง 6 นาที 03.3 วินาที ขณะที่ฝ่ายหญิง แชมป์เป็นของ นางสาวศุภักศร นันทนา 3 ชั่วโมง 14 นาที 46 วินาที ส่วนแชมป์ประเภททีม 5 คน ได้แก่ ทีมตำรวจ. ขณะที่ ประเภทจักรยานเสือภูเขาหญิงโอเพ่น นางสาวกฤติกา ศิลป์พัฒน์ 3 ชม 31 นาที 12 วินาที ส่วนฝ่ายชาย คือ นายธวัชชัย แสงสายแก้ว ทำเวลาไป 3 ชม 31 นาที 12 วินาที
ส่วนการแข่งขันเสตทที่ 2 เส้นทาง นครพนม-มุกดาหาร ระยะทาง 99.2 กม. และเสตทที่ 3 เส้นทาง มุกดาหาร-ภูมโนรมย์ ระยะเวลา 31.4 กม. จะมีการแข่งขันในวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน ตามลำดับ โดยผู้ชนะรวมทั้ง 3 สเตจจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit