นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 โดย RP ดำเนินธุรกิจให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่เพื่อใช้โดยสารและขนส่งทางเรือในฝั่งอ่าวไทย จำนวน 2 เส้นทางระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะสมุย และระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีบริการเดินเรือแบบประจำทางตามเที่ยวเวลา และเหมาลำ ปัจจุบันมีเรือเฟอร์รี่ให้บริการทั้งหมด 12 ลำ RP เป็นเจ้าของท่าเรือ 2 แห่ง ได้แก่ท่าเรือดอนสักสากล และท่าเรือสมุยสากล นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการโดยสารและขนส่งทางเรือเฟอร์รี่ของบริษัท
RP มีทุนชำระแล้ว 170 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 132 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 38 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2558 ในราคาหุ้นละ 12 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 456 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,040 ล้านบาท มีบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บมจ. ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ (RP) เปิดเผยว่า RP ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบำรุงรักษาซ่อมแซมเรือเฟอร์รี่ทุกลำให้มีความปลอดภัยกับผู้โดยสารและทนทานต่อสภาพการใช้งานในทะเลตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับพนักงานประจำเรือจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด และมีการจัดอบรมและซักซ้อมพนักงานเพื่อจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ ทุกปี การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้บริษัทสามารถเพิ่มจำนวนเรือเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมที่มีมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะนำเงินระดมทุนที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
RP มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชโยภาส ถือหุ้น 67.23% กลุ่มครอบครัวตังประพฤทธิ์กุล ถือหุ้น 7.18% และนายเกียรติศักดิ์ ยืนยง ถือหุ้น 1.62% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 27.91 เท่า คำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 กรกฎาคม 2557-30 มิถุนายน 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.43 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.rajaferryport.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
"สู่ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit