ทีเส็บ เผยผลสำเร็จโครงการ ART ยกเครื่องงานแสดงสินค้าไทยสู้ศึกอาเซียน เดินหน้าสนับสนุนผู้จัดงานต่อเนื่องถึงปี 2560

11 Nov 2015
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยผลสำเร็จโครงการ ASEAN Rising Trade Show (ART) ในการผลักดันและยกระดับคุณภาพของงานแสดงสินค้าของไทยและเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมในฐานะศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาค คาดหวังเป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2559 ประเทศไทยสามารถต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,060,000 คน สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ 92,000 ล้านบาท
ทีเส็บ เผยผลสำเร็จโครงการ ART ยกเครื่องงานแสดงสินค้าไทยสู้ศึกอาเซียน เดินหน้าสนับสนุนผู้จัดงานต่อเนื่องถึงปี 2560

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า "ในปีที่อาเซียนกำลังก้าวสู่ความเป็นหนึ่งเดียวทางเศรษฐกิจ เราจึงได้ริเริ่มแคมเปญ ASEAN Rising Trade Show หรือ ART เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยพร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมให้แข่งขันได้ในระดับอาเซียน สร้างรายได้เพิ่มจากงานแสดงสินค้า เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานและเข้าชมงานแสดงสินค้าจากภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนขยายขีดความสามารถของผู้จัดงานแสดงสินค้า สร้างความแข็งแกร่งให้แก่งานแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้มีศักยภาพให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค"

โครงการ ART มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมแสดงสินค้านานาชาติของไทยอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับสถานการณ์การแข่งขันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมทั้งในอาเซียนและในเอเชีย และเพื่อรองรับความร่วมมือระหว่างประเทศในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน โดยโครงการมีระยะเวลาดำเนินการสนับสนุน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2558-2560

"การดำเนินงานในปีแรกของโครงการ ART ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2558 นี้ ที่ผ่านมาถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในการส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจากนานาชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เพิ่มจำนวนสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตลอดจนช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดงาน และส่งเสริมการจัดกิจกรรมการตลาดให้สามารถดึงผู้เข้าร่วมงานที่หลากหลายมากขึ้น อันจะช่วยเสริมศักยภาพให้

งานแสดงสินค้านานาชาติที่ได้รับการสนับสนุนเป็นพื้นที่สื่อกลางในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างเครือข่ายทาง ธุรกิจ การจัดสัมมนาและคอร์สอบรมต่าง ๆ โดยจากการติดตามในตลอดระยะเวลาทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา จากงานแสดงสินค้าภายใต้การสนับสนุนของโครงการที่จัดไปแล้ว 10 งานจากทั้งหมด 12 งาน เรามั่นใจว่าโครงการ ASEAN Rising Trade Show ในปีแรกจะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นายนพรัตน์ กล่าวเสริม

ความสำเร็จบางส่วนของงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ ART ในปี 2558 ที่ผ่านมา ได้แก่

  • จำนวนผู้แสดงสินค้าและจำนวนผู้ชมงานจากต่างประเทศใน 3 ไตรมาส เติบโตเพิ่มขึ้น 75.6% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557
  • จำนวนรายได้จากการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยใน 3 ไตรมาส เติบโตเพิ่มขึ้น 72.6% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557
  • จำนวนผู้ร่วมงานแสดงสินค้า (Exhibitors) และผู้เข้าชมงาน (Visitors) จากประเทศในอาเซียนเพิ่มขึ้น 30%
  • ขยายความร่วมมือและเชื่อมโยงธุรกิจให้แก่งานที่ได้รับการสนับสนุนไปยังสมาคมการค้าหลักๆ ในอาเซียนในการเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่งานแสดงสินค้าในระยะยาว ผ่านกลยุทธ์การตลาดรูปแบบต่าง อาทิ การตลาดแบบตรง (Direct Marketing) การตลาดแบบบอกต่อ (Referral Marketing) และการตลาดดิจิตอล (Digital Marketing)

เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ ทีเส็บยังมีแผนให้การสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุน การสนับสนุนการผลิตสื่อเพื่อนำเสนอผลงาน (ตามความเหมาะสม) และนำผลงานแคมเปญสำหรับงานที่ได้รับรางวัลส่งเข้าประกวด UFI Awards ซึ่งจัดโดยสมาคมนิทรรศการระดับโลก (UFI) การโปรโมทความสำเร็จของงานแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัลในช่องทางสื่อสารของทีเส็บ และการมอบโล่เกียรติยศให้งานแสดงสินค้าที่มีการเติบโตสูงสุดในงานประจำปีของฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของทีเส็บ

"นอกจากนี้ ทีเส็บยังให้การสนับสนุนจัดงานในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจ และการสนับสนุนการเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างผู้จัดงานและสมาคมการค้า หอการค้า หน่วยงาน และองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในประเทศอาเซียน เพื่อสร้างหรือขยายโอกาสทางการตลาดและธุรกิจ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับงานแสดงสินค้าให้มีองค์ประกอบที่สามารถดึงดูดทั้งผู้ร่วมงานแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงานจากในประเทศและประเทศต่างๆ ในอาเซียน ตลอดจนแนวทางกลยุทธ์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าเพื่อผลักดันให้เกิดทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในอาเซียนและการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก" นายนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ จากผลสำเร็จของการดำเนินโครงการ ART ส่งผลให้จำนวนตัวเลขในปี 2558 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มงานแสดงสินค้าทั้งสิ้น 174,652 คน และมีจำนวนรายได้จำนวน 15,214 ล้านบาท คาดหวังว่าปีหน้าจะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องและสามารถนำไปสู่เป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2559 คือประเทศไทยสามารถต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,060,000 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศ 92,000 ล้านบาท และในส่วนเป้าหมายของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าคือต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 191,000 คน และสร้างรายได้ 15,650 ล้านบาทในปี 2559