นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่ารายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ไทคอนได้รับการรับรองคุณภาพอาคารโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design ของ U.S. Green Building Council (USGBC) ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานอาคารสีเขียวในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทไทคอนนับเป็นผู้พัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ารายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง LEED Certification นี้
"ไทคอน มีแนวคิดในการพัฒนาอาคารสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2557 ตามนโยบายหลักของ องค์กรในการให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างสังคมที่ดีให้ กับชุมชนโดยรอบโครงการ โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของกลุ่มไทคอน คือ การผลักดันให้โรงงานและคลังสินค้า ที่พัฒนาโดยกลุ่มไทคอน เป็นอาคารที่สามารถอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ กระบวนการก่อสร้าง จนถึงการใช้อาคารในการปฏิบัติงานจริง ซึ่งเรามองว่า LEED Certification สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เนื่องจาก LEED เป็นระบบการประเมินผลที่เป็นที่ยอมรับในด้านการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ไทคอนจึงตัดสินใจเข้าร่วมในการพัฒนาโครงการโรงงานสีเขียว ภายใต้มาตรฐาน LEED ดังกล่าว" นายวีรพันธ์ กล่าว
สำหรับโครงการนำร่องของกลุ่มไทคอน ได้เริ่มต้นจากการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปแห่งใหม่ ขนาดพื้นที่ 3,300 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมเอเชียสุวรรณภูมิเป็นอาคารต้นแบบ โดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพอาคาร แบบ LEED Core & Shell Rating System (LEED CS) ซึ่งเหมาะสำหรับการประเมินอาคารที่สร้างมาเพื่อให้เช่าโดยเฉพาะ โดยใช้งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 40 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการประเมินโรงงานตาม มาตรฐาน LEED CS พบว่า โรงงานต้นแบบแห่งนี้ สามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ดีขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ ตามมาตรฐาน ASHRAE(มาตรฐานการใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในระดับโลก) และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานได้ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 356,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังสามารถลดการใช้น้ำในอาคารได้มากถึง 42 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับโรงงานทั่วไป ซึ่งจะช่วยประหยัดการใช้น้ำได้มากถึงประมาณ 750 ลูกบาศก์เมตร ต่อปี ตลอดจนคุณภาพสิ่งแวดล้อม ภายในอาคาร ได้ถูกออกแบบให้มีระบบหมุนเวียนอากาศตามมาตรฐาน ASHRAE ซึ่งจะช่วยให้อาคาร สามารถประหยัดพลังงานได้อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน ในอาคารให้ดีขึ้นอีกด้วย
"นอกเหนือจากโรงงานต้นแบบแห่งนี้แล้ว กลุ่มไทคอนยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังสินค้าสีเขียวแห่งใหม่ตาม มาตรฐาน LEED ด้วยที่ โครงการทีพาร์ค วังน้อย 2 ขนาดพื้นที่ 25,380 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถ ได้รับการรับรองคุณภาพ LEED อย่าง เป็นทางการในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งประโยชน์ที่ได้คือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการใช้น้ำและพลังงานที่ลดน้อยลง กว่าโรงงานและคลังสินค้าทั่วไป อีกทั้งรูปแบบอาคารจะช่วยทำให้ผู้ปฏิบัติงาน ภายในอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความพึงพอใจในการ ปฏิบัติงานมากขึ้น จึงมั่นใจได้ว่า โรงงานและคลังสินค้าตามมาตรฐาน LEED นี้ จะได้รับการ ตอบรับอย่างดีจากลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำ ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย" นายวีรพันธ์ กล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit