ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งทางโลหิตวิทยาที่พบได้บ่อยติดอันดับ 1 ใน 7 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย โดยคาดว่าน่าจะมีผู้ป่วยใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองปีละกว่า 1,000 ราย หรือ เทียบเท่า 3-4รายต่อวัน โดยมีปัจจัยเสี่ยงในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถบอกสาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทุกรายได้อย่างชัดเจน แต่พบมีความสัมพันธ์กับหลายภาวะ ได้แก่
อายุ: อุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยอุบัติการณ์สูงสุดอยู่ที่ช่วง อายุ 60-70 ปี
เพศ: เพศชายพบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากกว่าเพศหญิง
การติดเชื้อ: พบความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิดกับการติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร (H.pylori) การติดเชื้อไวรัส EBV
ภาวะพร่องภูมิคุ้มกันของร่างกาย: ผู้ป่วยติดเชื้อ เอช ไอ วี พบอุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น
โรคภูมิแพ้ตนเอง: ผู้ป่วยโรค เอส แอล อี (SLE) พบอุบัติการณ์ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น
การสัมผัสสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ทั้งนี้สภาวะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงถือเป็นอุบัติการณ์ของโรคที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก โดยสูงขึ้นปีละ 4%เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยใหม่ถึงปีละ 50,000 ราย จึงยกให้วันที่ 15 ก.ย. ของทุกปี ตรงกับวัน"มะเร็งต่อมน้ำเหลืองโลก" เพื่อสร้างความตระหนักและหาทางป้องกันรักษา
ในปีนี้ "ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย" ด้วยความร่วมมือจากโรงเรียนแพทย์ และสถานพยาบาลที่สำคัญของประเทศ รวม 13 แห่ง จึงได้จัดกิจกรรม "ปาฏิหาริย์-เปลี่ยนมะเร็ง-ให้เป็นสุข : MIRACLE is all around" ครั้งที่ 2 โดยงานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนไข้โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทุกคน ร่วมกันค้นหาปาฏิหาริย์ของตัวเองให้พบ และรู้สึกว่าเจ็บป่วยอย่างมีความสุข เพื่อที่จะก้าวข้ามผ่านโรคมะเร็งให้พ้นไป
โดยภายในงานมีแขกรับเชิญพิเศษร่วมกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจ ดังนี้ โดย คุณหนูเล็ก ฉัตริษา ศรีสนติวงศ์ ฟื้นฟูร่างกาย จุดประกายหัวใจ ในกิจกรรม "เจ็บกาย แต่ไม่เจ็บใจ" ข้อคิดดีๆ "หายใจรักษากาย มะเร็งร้ายให้รักษาใจ" จากพระราชญานกวี (ปิยโสภณ)
และร่วมพูดคุย ให้กำลังใจและร่วมทำกิจกรรม กับ คุณก้อง สหรัถ สังคปรีชา ได้กล่าวให้กำลังใจกับผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองให้เข้มแข็งและมีกำลังใจต่อสู้ต่อไป ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วการดำเนินชีวิตและการรักษาสุขภาพให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และได้ร่วมกิจกรรมกับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโดยเลือกข้อคิดดีๆ ที่ผู้ป่วยและผู้เข้าร่วมงานเขียนใส่ในกระดาษแผ่นเล็กๆ หน้างาน และจับรางวัลสำหรับข้อคิดดีๆเพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจต่อไป
นอกจากนี้ในงานยังร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่มีกำลังใจเข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กับโรคมะเร็งคุณ จิตรลดา ทรัพย์สุข (จี๋) สาววัย 35 ปี ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin / DLBCLระยะที่2 ที่ยังอยู่ในระหว่างการรักษา หลังจากผ่านเคมีบำบัดมา 8 ครั้ง และ ฉายรังสี อีก 23 ครั้ง จบไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการรอลุ้นผลการรักษาว่ามะเร็งจะหายไปหรือไม่หลังจากช่วงแรกของการให้ยาเคมีบำบัด สภาพร่างกายเปลี่ยนไป ผิวพรรณคล้ำ ร่างกายซูบผอม ผมร่วง แต่มะเร็งไม่สามารถทำอะไรเธอได้ ยังใช้ชีวิตสดใสและมีกำลังใจที่ดีเยี่ยมมาก
"ฉันจะใช้ชีวิตปกติ ไม่นอนซมติดเตียง ไม่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ผมไม่มี ก็ใส่วิกสิ (ดีออก ได้เปลี่ยนทรงทุกอาทิตย์) คิ้วไม่มี (กลัวอะไร ดินสอเขียนคิ้วแบบ 3D ก็มี) หน้าหมองคล้ำ รองพื้นสิคะ (อย่ารองพื้นผิดเบอร์ก็พอ) มันคือความสุขเล็กๆน้อยๆที่ทำแล้วชุ่มชื่นหัวใจ แถมคนข้างกาย ทั้งคุณแม่และคุณสามีก็พลอยสบายใจที่เห็นฉันสดใส สดชื่นขึ้น จนหลายๆคนเอะใจว่า นี่เธอเป็นมะเร็งจริงหรือ"
"ฉันมีคุณค่ากับใครหลายคนบนโลกใบนี้ โลกใบนี้ยังมีอะไรสนุกๆให้ทำอีกเยอะ ทุกเรื่องราว มีทั้งด้านดีและไม่ดี และฉันจะเลือกมองในด้านดี ช่วงเวลานี้เป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิตที่ฉันจะต้องผ่านมันไปให้ได "มะเร็งทำร้ายได้แค่ร่างกายเรา แต่ไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเราได้ ถ้าเรามีจิตใจที่เข้มแข็งพร้อมที่จะสู้ต่อไป" คุณจี๋กล่าว
คุณภาคร ประสาทวิทย์ (นิค) อายุ 32 ปี เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชนิด นอน ฮอดกินจ์ Diffuse Large B-Cell ชีวิตผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านช่วงเวลาที่เฉียดตายมาแล้ว เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วในปี 2554 สนุกกับชีวิตเรื่อยมา ทำงานหนัก เครียด ดื่มเหล้า จากชีวิตที่กำลังจะไปได้สวย เริ่มมีคอนโดเป็นของตัวเอง งานก็กำลังไปได้ดีและแล้ววันหนึงได้รู้จักมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และได้ต่อสู้กับโรครักษาจนมีขนาดเล็กลงจนอยู่ในขนาดปกติ ซึ่งฉายแสงครั้งสุดท้ายผ่านมา 1 ปี 4 เดือน ด้วยกำลังใจและมุมมองที่ว่ามะเร็งไม่ได้น่ากลัวมีวิธีการป้องกันรักษาทุกปัญหามีทางแก้ไข
"โชคดีในความโชคร้ายเพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกอีกครั้งครับว่า ไม่ต้องกลัว วิธีการ เทคโนโลยี ก้าวล้ำหน้าไปมาก เรายัง Face Time กันได้ โทรศัพท์มือถือบาง 6 มม. ใช้ 4G เสริมสวยยกหน้า ร้อยไหม ทำหน้าเกาหลี สารพัด ทุกปัญหามีทางออกใครจะช่วยเราดูแล "มะเร็ง" "กำลังใจ" ดูแลได้ดีที่สุด ผู้ที่มีมะเร็งเป็นเพื่อน คุณต้องมีกำลังใจให้ตัวเอง ส่วนคนรอบข้างช่วยส่งต่อให้ได้ง่ายมากเพียงแค่เอ่ยปาก พูดคุยกับเค้าโดยเฉพาะคนที่ใกล้ชิดที่สุดคือ ครอบครัว ท้ายสุดนี้ ผมขอขอบคุณคุณหมอที่ดูแลผมทุกท่าน ที่ให้โอกาสผมเข้าร่วมโครงการวิจัย ผู้ใหญ่หลายๆท่านที่ให้ความเมตตา ช่วยเหลือ ให้โอกาสผมได้กลับไปทำงานด้วย พี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ดูแลและส่งกำลังใจมาให้ เพื่อนใหม่ที่ได้เจอระหว่างการรักษาและหลังการรักษา และท้ายสุดครอบครัวผมที่ให้กำลังใจมาด้วยดีเสมอ" คุณภาครกล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit