"ตอนดังสุดก็รับงานวันละครั้งเดียวแหละ ไม่มีวิ่งรอก แต่พอได้รับค่าตัวเต็มที่แล้วก็ 30 บาทต่องาน ก็ถือว่าดีนะ แต่แม่จะประหยัด กินข้าวอิ่มแล้วจะมีแก้วพาสติกของตัวเองก็เข้าห้องน้ำกินน้ำก๊อก ก็สัญญากับแม่ไว้บอกว่าถ้าหนูไม่มีบ้านและที่ดินจะไม่กลับเลย รางวัลเกียรติยศในชีวิตก็หลังจากแม่ไปร้องเพลงตามสถานที่ต่างๆ แล้วเกิดมีการประกวดแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน มาถึงคราวแม่เนี่ยแม่ได้ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงชื่อเพลงกลับบ้านเถิดพี่ของพี่สมโภชน์ ล้ำพงษ์ เค้าเป็นคนแต่งแล้วส่งไปในงานแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ปรากฏว่าแม่ได้เมื่อปี 2508 แต่แม่ไปสวนอัมพรไม่ถูกเค้าประกาศ แม่นั่งดูทีวีขาวดำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านถือแผ่นเสียงมาท่านก็มองซ้ายมองขวาไม่เห็นแม่มารับ เราก็นั่งร้องไห้ยกมือไหว้ทีวีแม่ก็เสียใจไปไม่ถูก หลังจากนั้นผลงานแม่ก็ตามมาเรื่อยๆ และจากนั้นแม่ก็ได้รางวัลเสาอากาศทองคำ 3 ปีซ้อน จากนั้นหยุดไป 3 ปีก็ได้ประกวดอีกครั้งก็ได้แผ่นเสียงทองคำอีกครั้งคราวนี้ ดีใจที่ได้รับจากพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท ชื่อเพลงโธ่ผู้ชายเมื่อปี 2522 หลังจากนั้นแม่ก็ประกาศสละสิทธิ์เลย เราหลีกทางให้กับนักร้องที่กำลังจะมีชื่อเสียงเพราะแม่ได้เยอะแล้ว สมเด็จพระเทพฯท่านก็พระราชทานโล่ให้กับแม่พร้อมเข็มกลัดติดเสื้อฝั่งเพชรให้ 1 อัน นักร้องยอดนิยมและยอดเยี่ยมที่สละตรงนี้ให้ ปีที่ 4 แม่ก็ได้อีกแต่แม่ไม่รับ ศิลปินแห่งชาตินี่แม่ชอบช่วยเหลือสังคมแล้วเค้าก็เอาชื่อแม่ส่งไป วันนี้ได้ตอนนั้นกำลังเล่นอยู่ที่ระยอง ระหว่างนั้นแฟนเพลงแม่ก็ขับจักรยานมาบอกเลยว่าทีวีประกาศว่าแม่ผ่องศรี วรนุชได้ศิลปินแห่งชาติก็ไม่เชื่อ อ่านหนังสือพิมพ์มาตอนเช้าแม่ก็ร้องไห้มือไม้สั่นว่าชั้นได้ยังไง ไม่คาดคิด ตอนนี้ขายยาสมุนไพรไทย รักษาโรคเบาหวานความดัน แม่ทานยาแล้วหายก็เลยมาขายแล้วเอาเงินเข้ากองทุนที่แม่ทำเพื่อเอาไว้ทำบุญต่อ กองทุนบำเพ็ญประโยชน์ที่แม่ทำขึ้นมา "
ติดตามเรื่องราวของ " แม่ผ่องศรี วรนุช " ได้ในรายการ " ดาวในดวงใจ " ทางช่องเพลินทีวี ที่หมายเลข 10 ในวันพุธที่ 23 กันยายนนี้ เวลา 12.00/18.30/24.00/4.30 น.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit